บสย.พร้อมค้ำ เติมทุนผู้ประกอบการ SME ปี 2566 พลิกฟื้น เติมเต็ม เสริมแกร่ง ต่อยอด SMEs ทุกระดับ เปิดตัวนวัตกรรมค้ำประกันสินเชื่อ "บสย. SMEs เข้มแข็ง" (PGS 10) วงเงิน 50,000 ล้านบาท คล่องตัวยืดหยุ่น ครอบคลุม ค่าธรรมเนียมค้ำต่ำสุด ระยะเวลาฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันนานกว่าเดิม มั่นใจ SMEs ฟื้นตัว สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกว่า 200,000 ล้านบาท เข้าถึงผู้ประกอบการ 100,000 ราย รักษาการจ้างงาน 700,000 อัตรา
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบอนุมัติโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS ระยะที่ 10 วงเงิน 50,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ บสย. ได้เร่งดำเนินการเพื่อเปิดรับคำขอค้ำประกันสินเชื่อ โดยแจ้งไปยังสถาบันการเงินที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ คาดว่าจะสามารถเปิดบริการในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2566 นี้เป็นต้นไป
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ "บสย. SMEs เข้มแข็ง" (PGS 10) วงเงิน 50,000 ล้านบาท เป็นโครงการ
นวัตกรรมค้ำประกันสินเชื่อ ที่ บสย. พัฒนาขึ้น โดยจัดสรรวงเงินระยะแรกที่ 30,000 ล้านบาท (ประมาณการระยะแรก 3-4 เดือน) เพื่อเพิ่มโอกาสผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น โดยได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อครอบคลุมผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเป้าหมาย (Segmentation) ประกอบด้วย 6 โครงการย่อย ดังนี้
1.สตาร์ท อัพ (Start up) สำหรับนักศึกษาจบใหม่ อาชีพอิสระ หรือผู้ประกอบการ SMEs หน้าใหม่ที่ต้องการเงินทุนสำหรับเริ่มต้นกิจการใหม่ ไม่เคยได้รับสินเชื่อกับสถาบันการเงิน วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 100,000 บาท รวมทุกสถาบันการเงิน ยื่นขอค้ำประกันขั้นต่ำต่อครั้ง ไม่น้อยกว่า 10,000 บาท อัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3% ต่อปี ฟรี 2 ปีแรก ปีถัดไปจ่ายคนละครึ่ง ตลอดอายุการค้ำประกัน วงเงินค้ำประกันระยะแรก 1,000 ล้านบาท
2. สมอล์ บิซ (Small Biz) สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้า แม่ขาย ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ วงเงินค้ำประกันสินเชื่อต่อรายไม่เกิน 200,000 บาทรวมทุกสถาบันการเงิน ยื่นขอค้ำประกันขั้นต่ำต่อครั้ง ไม่น้อยกว่า 10,000 บาท อัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 1.75% ต่อปี ฟรี 2 ปีแรก วงเงินค้ำประกันระยะแรก 3,000 ล้านบาท
3.สมาร์ท วัน (Smart One) สำหรับผู้ประกอบการบุคคลธรมดาที่ต้องการเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการฟื้นตัวภายหลังสถานการณ์ Covid-19 ได้แก่ SMEs ขนาดเล็ก หรือ ขนาดกลาง วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 40 ล้านบาท รวมทุกสถาบันการเงิน ยื่นขอค้ำประกันขั้นต่ำ 200,000 บาท อัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 1.75% ต่อปี ฟรี 2 ปีแรก วงเงินค้ำประกันระยะแรก 10,000 ล้านบาท
4.สมาร์ท บิซ (Smart Biz) สำหรับผู้ประกอบการนิติบุคคล ที่ต้องการยกระดับเสริมสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจ หรือขยายธุรกิจรองรับการเติบโต ได้แก่ SMEs ขนาดเล็ก ขนาดกลาง วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 40 ล้านบาท รวมทุกสถาบันการเงิน ยื่นขอค้ำประกันขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 200,000 บาท อัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 1.25% ต่อปี ฟรี 3 ปีแรก วงเงินค้ำประกันระยะแรก 15,000 ล้านบาท
5.สมาร์ท กรีน (Smart Green) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการเงินทุนสำหรับการปรับปรุงพัฒนา เสริมศักยภาพธุรกิจสู่ ESG รองรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน และ BCG เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 40 ล้านบาทรวมทุกสถาบันการเงิน ยื่นขอค้ำประกันขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท อัตราค่าธรรมนียมค้ำประกัน 1.5% ต่อปี ฟรี 4 ปีแรก วงเงินค้ำประกัน 500 ล้านบาท
6. สมาร์ท พลัส (Smart Plus) เป็นนวัตกรรมค้ำประกัน ใช้คู่กับโครงการที่ บสย. ดำเนินการเอง เพื่อเพิ่มความคุ้มครองผู้ค้ำประกันสินเชื่อ วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 10 ล้านบาท รวมทุกสถาบันการเงิน ยื่นขอค้ำประกันขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท อัตราค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 1% ต่อปี ฟรี 2 ปีแรก วงเงินค้ำประกัน 500 ล้านบาท
“โครงการ บสย. SMEs เข้มแข็ง เป็นโครงการที่จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการรายย่อยในด้านของ 1.ลดภาระการเงิน ที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมนาน 2-4 ปี โดยเฉพาะในฝั่งของกลุ่ม Micro อย่างกลุ่ม Start Up ที่ไม่เคยได้รับสินเชื่อ และไม่มีประวัติเครดิตบูโรมาก่อน แต่เฉลี่ยต่อรายแล้ว คนกลุ่มนี้ต้องการสภาพคล่องเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000 บาท/ราย ฉะนั้นการออกสินเชื่อให้กับกลุ่ม Star Up จะทำให้พวกเขามีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น 2.ค่าธรรมเนียมที่ถูกลงเยอะมากเป็นประวัติการณ์ จากที่เก็บค่าธรรมเนียมต่อปีเพียง 1% ไปจนถึง 3% ของแต่ละกลุ่ม โดยมีการคงระดับเอาไว้นานถึง 10 ปี เป็นการช่วยเหลือเหล่าผู้ประกอบการ SME ให้ดำเนินธุรกิจอยู่ได้อย่างมั่นคง 3.สนับสนุนธุรกิจสายกรีน จากในกลุ่มของ Smart Green ที่สามารถขอประกันขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 1 บาท ไปจนถึง 40 ล้านบาท และฟรีค่าธรรมเนียมสูงสุดในกลุ่มถึง 4 ปีนั้น เพราะทางบสย.ได้มุ่งสนับสนุนให้ธุรกิจต่างๆสามารถปรับตัวเข้าสู่ BCG และ ESG ได้ง่ายขึ้น ด้วยการขยายวงเงินดังกล่าวให้สามารถสานต่อธุรกิจเข้าสู่การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างไม่มีข้อติดขัดในด้านเงินทุน และ 4.ผู้ประกอบการยังสามารถตรวจสอบสุขภาพทางการเงิน ผ่านช่องทาง Line ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ทางบสย.ยังเตรียมออกโครงการค้ำประกันสินเชื่อ พรก.สินเชื่อฟื้นฟู เฟส 2 ที่ร่วมกับทางรัฐบาล ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินธุรกิจของเหล่า SME มีต้นทุนที่ถูกยิ่งขึ้นอีก” นายสิทธิกร กล่าวทิ้งท้าย
โครงการ "บสย. SMEs เข้มแข็ง" (PGS 10) เป็นโครงการต่อเนื่อง 2 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดวันรับคำขอ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 จะเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งทุน ที่จะสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 200,000 ล้านบาท รักษาการจ้างงานกว่า 700,000 อัตรา ผู้ประกอบการ SMEs สามารถลงทะเบียน บริการรับคำปรึกษา ตรวจสุขภาพทางการเงินฟรี ผ่านช่องทาง Line TCG First (@tcgfirst)
ข่าวเด่น