ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลง หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับขึ้น ส่งผลให้มีแรงเข้าซื้อในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันให้เกิดแรงเทขายทำกำไรในตลาดทองคำ โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงมาปิดที่บริเวณ 1,958 เหรียญ และทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,944 เหรียญ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตธนาคาร ขณะที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงดำเนินต่อไป โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศจะติดตั้งฐานอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีในเบลารุส สำหรับกองทุนทองคำ SPDR ปัจจุบันถือครองเท่าเดิมที่ 923.97 ตัน ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ Goods Trade Balance และ Prelim Wholesale Inventories m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่ CB Consumer Confidence คาดการณ์จะออกมาลดลงจากเดิม
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวลดลง โดยอยู่ในช่วงของการปรับฐานหลังจากที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงมาที่บริเวณแนวรับสำคัญแรกของ Fibonacci Retracement 30% ที่ระดับ 1,950 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบในลักษณะของการสะสมพลังเพื่อดีดกลับขึ้นไปใหม่ โดยมีแนวรับที่ 1,950 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,980 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,952 เหรียญ และแนวต้าน 1,982 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,952 เหรียญ และแนวต้าน 1,982 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,600 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series J23 จะมีแนวรับที่ระดับ 31,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,350 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 - 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways ลงซื้อขึ้นขาย ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว
ข่าวเด่น