แบงก์-นอนแบงก์
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "แกว่งบริเวณ 1600 +/-10 จุด"


คาด SET แกว่งอยู่ในกรอบบริเวณ 1590-1610 จุด โดยในภาพทางเทคนิคระยะสั้นที่เข้าสู่ภาวะ Overbought ทำให้ดัชนีมีการสลับการพักตัวเป็นระยะ แต่ภาพรวมยังมีทิศทางที่ดี หากไม่ต่ำกว่ากรอบล่างบริเวณ 1590 จุด ส่วนการขึ้นทะลุผ่าน 1610 จุด แสดงสัญญาณบวกต่อ และมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1620 จุด 

ประเด็นสำคัญ

Fed กำลังพิจารณาหาช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการล้มละลายของ SVB และแนวทางที่จะคุมเข้มกฎระเบียบธนาคารหลังจากนี้ โดยจะเปิดเผยรายงานดังกล่าวในวันที่ 1 พ.ค.

ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศสหรัฐ ม.ค. เพิ่มขึ้น 325%YoY แต่ลดลง 0.6%MoM ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 104.2 สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 101.0 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 103.4 ในเดือน ก.พ.

BoE ระบุกำลังเฝ้าระวังหลังจากเกิดความปั่นป่วนในภาคธนาคารทั่วโลก หลังการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ของสหรัฐและธนาคารเครดิต สวิสของสวิตเซอร์แลนด์

ราคาหุ้นอาลีบาบาเพิ่มขึ้น 10.72% สู่ระดับ 95.35 เหรียญ หลังประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่สุด แยก 6 กลุ่มธุรกิจ เตรียม IPO

ติดตามการประชุม กนง. วันนี้ คาดขึ้น ด.บ. 0.25% สู่ระดับ 1.75%รวมทั้งความเห็นของ คกก. เกี่ยวกับปัญหาภาคธนาคารในสหรัฐ-ยุโรป

ครม. รับทราบรายงานความเสี่ยงทางการคลังปี 2565 โดยหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 10.37 ล้านลบ. คิดเป็น 60.41% ต่อ GDP ขณะที่เงินคงคลังยังสูงต่อเนื่องที่ระดับ 6.24 แสนลบ.

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1550-1620 จุด โดยแม้การออกมาตรการที่รวดเร็วของธนาคารกลางจะช่วยลดความเสี่ยงที่วิกฤตจะลุกลามได้ดี แต่ประเมินตลาดการเงินโลกยังคงมีเสี่ยงและเปราะบาง จากผลกระทบของวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปที่ยังต้องติดตามต่อไป กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : ภายใต้ภาวะตลาดการเงินที่ยังคงมีเสี่ยงและเปราะบาง จากผลกระทบของวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปที่ยังต้องติดตามต่อไป กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1) หุ้น Best of the best ภายใต้วิกฤติการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีพื้นฐานและฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. ทำให้คาด Downside เริ่มจำกัด จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF 

2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ ซึ่งต้องการเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น หลังมอง กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 25bps ในการประชุมสัปดาห์หน้า เลือก KTB KBANK

3) นักลงทุนรับความเสี่ยงได้ ซึ่งเก็งกำไรในหุ้นที่เคยแนะนำในช่วงที่ SET หลุด 1600 ได้แก่ PTTEP HMPRO CPALL SCGP GULF แนะนำรอจังหวะขายเมื่อมีกำไร หรือ SET กลับไปบริเวณ 1600

4) Trading Idea : หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงสวนทางดัชนีกลุ่ม Semiconductor ในสหรัฐ ขณะทีผลประกอบคาดจะผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q66 เลือก KCE HANA

ขณะที่ช่วงสั้นหุ้นแนะนำให้ระมัดระวังการลงทุน สำหรับหุ้นที่มีความเสี่ยงราคาปรับตัวลงหรือ Underperform ตลาด เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการ 1Q66 คาดยังหดตัวต่อ YoY และ QoQ ได้แก่ GFPT CPF BTS ASP

Daily focus
 
IVL ช่วงสั้นคาดราคาหุ้นจะได้รับ Sentiment บวกจากการเข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่มเครื่องดื่มซึ่งหนุนอุปสงค์บรรจุภัณฑ์ อีกทั้งราคาฝ้ายที่ปรับขึ้น 3.8%DoD ยังส่งผลบวกต่อโพลีอิสเตอร์ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนกัน ขณะที่ valuation ยังอยู่ในระดับต่ำที่ -2SD PBV 

KTB ปี 2566 คาดกำไรจะเติบโต 15%YoY อีกทั้งมองได้ประโยชน์มากที่สุดจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น มีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และ valuation น่าสนใจ รวมทั้งมีเงินปันผลจ่าย 0.682 บาท (XD 18 เม.ย.) คิดเป็น Div. Yield 4.2%
 
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 มี.ค. 2566 เวลา : 11:25:03
12-01-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ January 12, 2025, 10:00 pm