ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1% หลังมีเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดทองคำมากขึ้นจากสภาวะความไม่แน่นอนของตลาดพันธบัตร ท่ามกลางตลาดเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารของสหรัฐฯ และธนาคารเครดิต สวิส รวมถึงเรื่องของธนาคารดอยซ์แบงก์ในยุโรป แม้ว่าค่าประกันความเสี่ยงตราสารหนี้ (Credit Default Swap: CDS) จะยังอยู่ในเกณฑ์สูงจากสภาวะความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของธนาคารในยุโรป ด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 3.76 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 927.73 ตัน สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Pending Home Sales m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้อ่อนค่าลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ 102.49 จุด และเคลื่อนไหวระหว่าง 102.38-102.76 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 102.51 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยอยู่ที่ 34.20-34.41 บาทต่อดอลลาร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำมีการปรับฐานลดลงมาทดสอบระดับ Fibonacci Retracements 24% ที่บริเวณ 1,950 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาได้ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของราคาทองคำในการดีดกลับ โดยภาพรวมราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,960 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,990 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,962 เหรียญ และแนวต้าน 1,992 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,962 เหรียญ และแนวต้าน 1,992 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,600 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,100 บาท/บาททองคำ
** ทั้งนี้ GOH23 จะหมดอายุในวันที่ 30 มี.ค. แนะนำถือครอง GOM23 แทน
Gold Futures Series J23 จะมีแนวรับที่ระดับ 31,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,300 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 - 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังแนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways ลงซื้อขึ้นขาย ติดตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว
ข่าวเด่น