ซีเอสอาร์-เอชอาร์
เปิดตัวเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ สอนเยาวชนทำธุรกิจจริง ใน 66 วัน


 
มูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญาด้วยการสนับสนุนของธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นที่ 1 “66 วันเรียนรู้ชีวิต ทำธุรกิจให้เป็นจริง” บ่มเพาะเยาวชนระดับมัธยมปลายในจังหวัดน่านให้มีความรู้ใหม่และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจจริงใน 66 วัน ที่ให้โอกาสการเรียนรู้แนวใหม่ด้วยวิทยากรมืออาชีพ กูรูด้านธุรกิจระดับประเทศ และผู้ประกอบการตัวจริง โดยจัดทำโครงการนำร่องกับนักเรียนจาก 8 โรงเรียน 40 คน ในจังหวัดน่าน ตอกย้ำเจตนารมณ์การพัฒนาเยาวชนให้มีองค์ความรู้ใหม่ ทักษะใหม่ ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง และสร้างความยั่งยืนในจังหวัดบ้านเกิด สอดคล้องกับความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายสำคัญของ SDGs

 
ดร.อดิศวร์ หลายชูไทย กรรมการผู้จัดการมูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา เปิดเผยว่า คุณบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ ธนาคารกสิกรไทย ได้มีแนวดำริที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคนโดยผ่านระบบการศึกษาที่เป็นกลไกพื้นฐานทางความคิดที่สำคัญโดยเฉพาะในเยาวชน และถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะลดทอนความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ ด้วยแนวคิดดังกล่าวธนาคารได้ริเริ่มโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาขึ้นในปี 2556 โดยดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จนถึงปี 2562 และดำเนินโครงการต่อเนื่องในจังหวัดน่านจนถึงปี 2565 ซึ่งพบว่าโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาช่วยพัฒนาระบบการเรียนรู้จากโครงงานฐานวิจัย สามารถเปลี่ยนกระบวนการคิดในเยาวชนให้สามารถตั้งสมมติฐานและหาคำตอบด้วยตรรกะ เกิดเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องตลอดชีวิต
 
 
เพื่อสืบสานแนวดำริดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ในเดือนธันวาคม 2565 ธนาคารกสิกรไทยได้ก่อตั้ง มูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญาขึ้นโดยมี  ดร.อภิชัย จันทรเสน ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิ และคุณขัตติยา    อินทรวิชัย ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการมูลนิธิ เพื่อต่อยอดกระบวนการเพาะพันธุ์ปัญญาให้มีความต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการมอบโอกาสในการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ทักษะใหม่ และประสบการณ์จริง เพื่อให้เยาวชนมีความพร้อมที่จะใช้ชีวิตอย่างสมดุลในอนาคต

 
ในปี 2566 นี้ มูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญาได้ริเริ่มโครงการที่เสริมสร้างสมรรถนะของนักเรียนให้มีองค์ความรู้ใหม่และทักษะใหม่ที่แตกต่างจากการเรียนในห้องเรียน ผ่านกิจกรรมในโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นที่ 1 ภายใต้แนวคิด “66 วันเรียนรู้ชีวิต ทำธุรกิจให้เป็นจริง” เป็นไปตามเจตนารมณ์ของมูลนิธิฯ ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง ทำให้เกิดการพัฒนาทักษะและเสริมสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิต สามารถกลับมาดูแลท้องถิ่น พัฒนาชุมชน และสร้างความยั่งยืนในจังหวัดน่านและพื้นที่ใกล้เคียง และตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) เรื่องการส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้ (Quality Education) ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนด้านอื่นๆ อาทิ การสร้างงานที่ดีและเศรษฐกิจที่เติบโต (Decent Work and Economic Growth)  และการลดความเหลื่อมล้ำ (Reduce Inequalities)

 
โครงการเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นที่ 1 จัดให้กับกลุ่มนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งเป็นช่วงวัยที่กำลังแสวงหาแนวทางการดำเนินชีวิตก่อนก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย จึงเหมาะกับการให้ประสบการณ์การเรียนรู้แบบใหม่ ที่จะช่วยพัฒนาให้เยาวชนเกิดทักษะใหม่ มีตรรกะในการดำรงชีวิต สามารถสร้างสมดุลให้แก่ตนเอง โดยให้โอกาสเยาวชนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-5 ที่เคยผ่านห้องเรียนเพาะพันธุ์ปัญญา โรงเรียนละ 5 คน จาก 8 โรงเรียนในเมืองและพื้นที่ห่างไกลของจังหวัดน่าน รวม 40 คน ที่มีความคิดก้าวหน้า พร้อมเรียนรู้ในการทำธุรกิจและต้องการเป็นผู้ประกอบการ มาร่วมแคมป์ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 27 พฤษภาคม 2566 รวม 66 วัน 

 
สำหรับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้ความรู้ตั้งแต่การสร้างสรรค์และทดสอบไอเดียธุรกิจ การเปลี่ยนไอเดียธุรกิจให้เกิดขึ้นจริง ความรู้ด้านการตลาดและการเงินสำหรับผู้ประกอบการ การสร้างแผนและพัฒนาธุรกิจให้เติบโต ตลอดจนความรู้ทักษะชีวิตพื้นฐานทั้งภาวะผู้นำ การสื่อสาร และการนำเสนอ จากวิทยากรมืออาชีพและกูรูด้านธุรกิจระดับประเทศ รวมทั้งผู้ประกอบการในจังหวัดน่าน เพื่อเสริมสร้างทักษะและศักยภาพของเยาวชนให้สามารถสร้างโมเดลธุรกิจให้เป็นจริงในรูปแบบบริษัท โดยมูลนิธิฯ จะสนับสนุนทุนเริ่มต้นในการทำธุรกิจ และมีรางวัลให้แก่ทีมที่มีผลงานยอดเยี่ยม รวมทั้งมีทุนสนับสนุนการพัฒนาโรงเรียนต้นสังกัดอีกด้วย ทั้งนี้  โครงการเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์จะมุ่งเน้นการเรียนรู้แบบสนุกสนานจากกิจกรรม 3 แคมป์ต่อเนื่อง ได้แก่ 

 
• แคมป์ที่ 1 “กล้าเรียน” (วันที่ 23-27 มีนาคม 2566) ปูพื้นฐานสร้างไอเดียธุรกิจ ความเป็นไปได้ และเรียนรู้สิ่งที่จำเป็นในการทำธุรกิจ โดยระหว่างการเรียนรู้ ทั้ง 8 ทีมจะต้องนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาไอเดียธุรกิจที่มีคุณค่า และนำทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิฯ ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการเพื่อนำไปทดลองตลาดต่อไป (Minimum Viable Product: MVP) 
 
 
• แคมป์ที่ 2 “กล้าลุย” (วันที่ 20-23 เมษายน 2566) บุกตลาด ลงมือขาย พบลูกค้าตัวจริง เรียนรู้จุดเด่นจุดด้อย เพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการ โดยทีมเยาวชนจะได้นำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คิดและพัฒนาไปทดลองขายหรือสอบถามความคิดเห็นจากผู้บริโภคตัวจริงที่ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน เพื่อนำผลที่ได้ไปพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ และเดินหน้าจัดจำหน่ายเป็นธุรกิจจริงต่อไป 
 
 
• แคมป์ที่ 3 “กล้าก้าว” (วันที่ 24-27 พฤษภาคม 2566) รายงานและนำเสนอผลประกอบการ รับแรงบันดาลใจ ซึ่งทั้ง 8 ทีม จะต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและนักธุรกิจตัวจริง  โดยจะประกาศผลและมอบรางวัลให้แก่ทีมที่มีผลงานยอดเยี่ยมและได้รับคะแนนสะสมมากที่สุด  นอกจากนั้น เยาวชนจะได้เปิดโลกทัศน์เรียนรู้ประสบการณ์จากบุคคลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจและผู้นำความคิดด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับประเทศในงานปัจฉิมนิเทศอีกด้วย
 
 
• โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ “เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์” รุ่นที่ 1 ประกอบด้วย 1.โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร อ.เมืองน่าน 2.โรงเรียนสา อ.เวียงสา 3.โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 อ.เวียงสา 4.โรงเรียนปัว อ.ปัว 5. โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อ.ท่าวังผา 6.โรงเรียนเชียงกลางประชาพัฒนา อ.เชียงกลาง 7.โรงเรียนพระธาตุพิทยาคม อ.เชียงกลาง และ 8.โรงเรียนเมืองลีประชาสามัคคี อ.นาหมื่น

 
ดร.อดิศวร์ กล่าวตอนท้ายว่า มูลนิธิฯ มีความตั้งใจที่จะทำให้โครงการเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์เป็นพื้นที่ที่ให้โอกาสเยาวชนในจังหวัดน่านได้พัฒนาองค์ความรู้ใหม่และไอเดียธุรกิจที่สร้างสรรค์ ได้ลงมือทำธุรกิจจริง ซึ่งจะทำให้ได้พัฒนาทักษะในการจัดการอย่างมืออาชีพทั้งกระบวนการ ฝึกฝนการทำงานเป็นทีม ตัดสินใจอย่างเป็นระบบ เรียนรู้ที่จะล้มเหลวและลุกขึ้นสู้อย่างไม่ท้อถอย สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างเพื่อนร่วมแคมป์ โดยเชื่อมั่นว่าองค์ความรู้และประสบการณ์จากเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ จะเติมเต็มและสร้างความพร้อมให้กับเยาวชนในการรับมือกับโจทย์ใหม่และความท้าทายที่จะเข้ามาในอนาคตอย่างมั่นใจและสมดุล ซึ่งระบบการเรียนรู้นี้จะเป็นกลไกสำคัญต่อการพัฒนาทุนมนุษย์ให้มีสมรรถนะในการพัฒนาและสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศต่อไป 
 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 มี.ค. 2566 เวลา : 13:33:29
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 10:21 pm