ปัญหาภาคธนาคารสหรัฐ และยุโรป คลายกังวล อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ต่อดัชนีนัก ทำให้คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1600-1615 จุด ด้านจุดติดตามอยู่ที่ 1590 จุด หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบ หรือเกิดการพักฐานของดัชนีแล้ว
ประเด็นสำคัญ
คณะบริหารของ ปธน. โจ ไบเดน เสนอมาตรการกำกับดูแลธนาคารขนาดกลางให้เข้มงวดมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงระบบธนาคารของสหรัฐ
สหรัฐรายงาน GDP 4Q65 ประมาณการครั้งที่ 3 ขยายตัว 2.6%QoQ ต่ำกว่าประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ที่ขยายตัว 2.9% และ +2.7% ตามลำดับ
รัสเซียจับนักข่าวอเมริกันของสำนักข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัลข้อหาเป็นสปาย ต่อมาทางสำนักข่าวฯ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
พาณิชย์ รายงานตัวเลขส่งออก ก.พ. 66 หดตัว 4.7%YoY ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.1% โดยประเมิน 1Q66 การส่งออกของไทยจะหดตัวราว 8% และมีโอกาสจะติดลบต่อเนื่องใน 2Q66 ก่อนจะฟื้นตัวใน 2H66
ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้องคดี BTS ฟ้องกรณีล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ระบุ รฟม. กระทำโดยสุจริต ชอบด้วยกฎหมายไม่เลือกปฏิบัติ
รมว.ทรัพยากรฯ? เตรียมออกกฎหมายคุมคาร์บอน? มีกำหนดร่าง พ.ร.บ. เสร็จเดือน เม.ย. พร้อมเสนอ ครม. ปลายปีนี้?
จีเอซี ไอออน ผู้ผลิต EV รายใหญ่ของจีนสนใจลงทุน 6.4 พันลบ. ตั้งโรงงานผลิตรถ EV-แบตฯ ใน EEC วางเป้าผลิต 1 แสนคัน/ปี
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1550-1620 จุด โดยแม้การออกมาตรการที่รวดเร็วของธนาคารกลางจะช่วยลดความเสี่ยงที่วิกฤตจะลุกลามได้ดี แต่ประเมินตลาดการเงินโลกยังคงมีเสี่ยงและเปราะบาง จากผลกระทบของวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปที่ยังต้องติดตามต่อไป กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ภายใต้ภาวะตลาดการเงินที่ยังคงมีเสี่ยงและเปราะบาง จากผลกระทบของวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปที่ยังต้องติดตามต่อไป กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้น Best of the best ภายใต้วิกฤติการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีพื้นฐานและฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. ทำให้คาด Downside เริ่มจำกัด จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF
2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ ซึ่งต้องการเก็งกำไรหุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น หลังมอง กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 25bps ในการประชุมสัปดาห์หน้า เลือก KTB KBANK
3) นักลงทุนรับความเสี่ยงได้ ซึ่งเก็งกำไรในหุ้นที่เคยแนะนำในช่วงที่ SET หลุด 1600 ได้แก่ PTTEP HMPRO CPALL SCGP GULF แนะนำรอจังหวะขายเมื่อมีกำไร หรือ SET กลับไปบริเวณ 1600
4) Trading Idea : หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงสวนทางดัชนีกลุ่ม Semiconductor ในสหรัฐ ขณะทีผลประกอบคาดจะผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q66 เลือก KCE HANA
ขณะที่ช่วงสั้นหุ้นแนะนำให้ระมัดระวังการลงทุน สำหรับหุ้นที่มีความเสี่ยงราคาปรับตัวลงหรือ Underperform ตลาด เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการ 1Q66 คาดยังหดตัวต่อ YoY และ QoQ ได้แก่ GFPT CPF BTS ASP
Daily focus
HMPRO ช่วงสั้นคาดราคาหุ้นจะได้อานิสงส์จากอุปสงค์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้นจากอากาศร้อนจัด ขณะที่ทั้งปี 2023 คาดกำไรเติบโต 14%YoY จาก SSS ที่เพิ่มขึ้น รายได้ค่าเช่าที่ฟื้นตัว และมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นจากมียอดขายสินค้าอัตรากำไรสูงได้เพิ่มขึ้น
LH ปี 2566 คาดกำไรเติบโต 12%YoY แรงหนุนจากธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ที่ยังเติบโตจากการเปิดตัวโครงการใหม่ ธุรกิจให้เช่าที่ดีขึ้นจากมีสินทรัพย์ใหม่เพิ่มเข้ามาใน 4Q65 อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่แข็งแกร่ง
ข่าวเด่น