เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "พักตัว และมูลค่าซื้อขายเบาบาง"


คาด SET พักตัว เนื่องจากตลาดคาดปัจจัยหนุนใหม่ และมูลค่าซื้อขายเบาบาง ในช่วงก่อนหยุดเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่วันนี้ตลาดหุ้นจีน และฮ่องกง ปิดทำการ และพรุ่งนี้ SET ปิดทำการ ด้านกรอบบนถูกจำกัดบริเวณ 1600 และ 1615 จุด ส่วนกรอบล่างติดตาม 1590 จุด หากต่ำกว่าจะเป็นสัญญาณลบต่อภาพการอ่อนตัวชัดขึ้น และมีแนวรับถัดไปที่ 1578 จุด 

ประเด็นสำคัญ

สหรัฐรายงานตัวเลขเปิดรับสมัครงานปรับลงเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ด้าน FedWatch Tool ให้น้ำหนัก 56.9% ที่ Fed จะคง ด.บ. และให้น้ำหนัก 43.1% ที่จะขึ้น ด.บ. 0.25% ในการประชุม 2-3 พ.ค.

Jamie Dimon ซีอีโอของ JPMorgan Chase เตือนวิกฤตการธนาคารยังไม่จบและจะทำให้เกิดผลกระทบในอีกหลายปีข้างหน้า

ดัชนี PMI ภาคการผลิต มี.ค. ของจีนอยู่ที่ระดับ 50 ลดลงจากระดับ 51.6 ในเดือน ก.พ. เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกอ่อนแรง

อิรักบรรลุข้อตกลงกับ KRG เพื่อดำเนินการส่งออกน้ำมัน 4.5 แสนบาร์เรลจากทางตอนเหนือของอิรักผ่านทางท่อส่งน้ำมันไปยังตุรกี 

ม. หอการค้าไทย คาดช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เงินสะพัด 1.25 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 17.3%YoY หนุน GDP โตเพิ่ม 0.5-0.7% ด้าน AOT คาด ผดส. เดินทางผ่านกว่า 2.37 ล้านคน เที่ยวบิน 1.4 หมื่นเที่ยว

ADB คาด GDP ไทยโต 3.3% ปีนี้และ 3.7% ปีหน้า โดยการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก

สรท. ระบุส่งออกของไทยในปี 2566 มีปัจจัยที่ท้าทายมากขึ้น และมีโอกาสที่จะเติบโตได้ไม่ถึง 1% ส่วน 1Q66 คาดหดตัว 10%YoY

วันนี้ กกพ. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกจัดหาไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ FiT รอบแรก 5,203 MW คาดเริ่ม COD ปลายปี 67 พร้อมเปิดรอบ 2 อีก 3,668 MW ในปีนี้

กลยุทธ์การลงทุน
 
แม้ช่วงสั้นตลาดจะคลายกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป แต่เชิงเทคนิคตลาดเข้าสู่ภาวะ overbought บวกกับ มุมมองที่แตกต่างกันระหว่างเฟดและตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจนำไปสู่ความผันผวนของตลาดในระยะถัดไป อีกทั้งโดยปกติเดือน เม.ย. วอลุ่มเฉลี่ยต่อวันของตลาดส่วนใหญ่จะปรับตัวลดลง MoM เนื่องจากนักลงทุนมักจะชะลอการเข้าลงทุนจากการมีวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ จึงทำให้มองช่วงสั้นนี้ SET จะเริ่มมี Upside จำกัดและมีโอกาสพักตัว กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : มอง SET มี Upside จำกัดและมีโอกาสพักตัว หลังเข้าสู่ภาวะ Overbought และใกล้วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Best of the best ภายใต้วิกฤติการเงินในสหรัฐและยุโรป ซึ่งมีพื้นฐานและฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. ทำให้คาด Downside เริ่มจำกัด จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF 

2. Trading Idea : หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ไทยหลังราคาหุ้นยังไม่ค่อยปรับขึ้น เมื่อเทียบกับดัชนีกลุ่ม Semiconductor ในสหรัฐที่ปรับขึ้นแรง ขณะทีผลประกอบคาดจะผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q66 เลือก KCE HANA 

3. หุ้นปันผล ซึ่งจากข้อมูลย้อนหลัง 11 ปี (ปี 2011-2022 ยกเว้นปี 2020) พบมี 2 หุ้นปันผลดีที่อยู่ภายใต้การดูแลของเราซึ่งให้ผลตอบแทนบวกและมี Win Rate เกิน 50% ในเดือน เม.ย. ได้แก่ SPALI (ปันผลหุ้นละ 0.75 บาท) และ LH (ปันผลหุ้นละ 0.35 บาท) ซึ่งจะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 8 พ.ค.

Daily focus

GULF ปี 2566 คาดกำไรจะยังเติบโตแข็งแกร่ง 32%YoY ปัจจัยหนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะทยอยเปิดดำเนินการในปีนี้ อีกทั้งยังมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานและ INTUCH ที่มีเสถียรภาพ

AOT มองกำไร 2QFY66 จะแข็งแกร่งขึ้นจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และจะเติบโตก้าวกระโดดใน 3QFY66 หลังกลับมาเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำในวันที่ 1 เม.ย. หลังจากมาตรการช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์สิ้นสุดลง
 
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 เม.ย. 2566 เวลา : 10:38:37
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 12:45 pm