เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "แม้ยอดจอง Motor Show 2023 พุ่งแรง แต่ยอดขายทั้งปี ยังขึ้นกับการฟื้นตัวของกำลังซื้อ"


ยอดจอง Motor Show ปีนี้ปิดตัวเลขสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ฟื้นตัวดีขึ้นหลังโควิดคลี่คลาย อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มีข้อสังเกตที่อาจมีผลต่อยอดขายรถยนต์รวมในประเทศทั้งปีนี้ ได้แก่

 
(1) ยอดจองรถยนต์หลักของไทยกลุ่มที่ใช้น้ำมันยังฟื้นตัวไม่ปกตินัก 
 
(2) ยอดจองรถยนต์หรูมีสัญญาณที่ปะปน ซึ่งอาจเป็นผลจากจังหวะการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั้งก่อนและหลังงานของแต่ละค่าย และการที่ผู้ซื้อบางส่วนหันไปจองรถยนต์ BEV ของค่ายที่ไม่ได้เข้าร่วมงานด้วย
 
(3) ยอดจองของค่ายรถชั้นนำบางค่ายกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มรถราคาย่อมเยา ซึ่งอาจสะท้อนถึงกำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ท่ามกลางทิศทางเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงยังมีมุมมองที่ระมัดระวังและจะยังคงประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 865,000 ถึง 895,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 1.8% ถึง 5.4% จากปี 2565

แม้ยอดจอง Motor Show ปีนี้พุ่งแรง แต่การฟื้นตัวของกำลังซื้อยังเป็นประเด็นติดตาม ซึ่งจะมีผลต่อยอดขายรถยนต์รวมทั้งปี

จากงาน Motor Show ครั้งล่าสุดที่ปิดตัวเลขอย่างสวยงามที่ยอดจอง 42,885 คันนั้น แม้ด้านหนึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงภาพความคึกคักของตลาดรถยนต์ในประเทศของไทยในช่วงระหว่างการจัดงาน ทว่าอีกด้านหนึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมีมุมมองระมัดระวังต่อภาพตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศทั้งปี 2566 นี้ สะท้อนจากประเด็นข้อสังเกต ดังต่อไปนี้

1. ตลาดรถยนต์หลักของไทยกลุ่มที่ยังใช้น้ำมัน1 ยังคงแสดงให้เห็นถึงทิศทางการฟื้นตัวที่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติอยู่ พิจารณาจากตัวเลขยอดจองรถยนต์รวมหลังหักรถยนต์ BEV เกือบหมื่นคันออกแล้ว เหลือรถยนต์กลุ่มหลักที่ใช้น้ำมันเพียง 33,651 คัน ซึ่งแม้จะเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ช่วงที่มีการระบาดหนักของโควิด ที่ปิดยอดจองรถกลุ่มนี้ได้เพียง 28,812 คัน ทว่าหากเทียบกับยอดจองงานเดียวกันในปี

2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนโควิดที่มียอดจองรถยนต์กลุ่มนี้สูงถึง 37,769 คันแล้ว ก็นับว่ายังห่างกันอยู่ระดับหนึ่ง

2. ยอดจองรถหรูยังคงส่งสัญญาณที่ปะปน โดยบางค่ายมียอดจองเพิ่มขึ้น ขณะที่บางค่ายมียอดจองลดลง ทั้งนี้น่าจะขึ้นอยู่กับจังหวะในการเปิดตัวรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ BEV ของแต่ละค่าย ซึ่งมีทั้งค่ายที่เปิดตัวไปก่อนงานและค่ายที่อยู่ระหว่างเตรียมเปิดตัวหลังงาน นอกจากนี้ กลุ่มผู้ซื้อรถยนต์หรูบางส่วนน่าจะไปจองซื้อรถยนต์ BEV ของบางค่ายรถที่ไม่ได้เข้าร่วมงานแทน ซึ่งก็จะกลายเป็นมาดึงยอดจองของกลุ่มรถหรูบางส่วนไป

3. ค่ายรถยนต์ชั้นนำบางค่ายยอดขายยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มรถราคาย่อมเยา แม้บางค่ายรถจะสามารถรับจองรถยนต์ราคาระดับบนได้ดี ซึ่งแม้ว่าส่วนหนึ่งจะเป็นเพราะการใส่ออปชั่นเสริมมาให้อย่างคุ้มค่า และบางส่วนจะเป็นเพราะการจัดโปรโมชั่นราคาที่ดึงดูดได้อย่างน่าสนใจ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมที่ยังคงอยู่ในภาวะเปราะบาง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด ขณะที่เศรษฐกิจในต่างประเทศก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง

จากข้อสังเกตต่างๆ ดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงมองว่า สภาพตลาดรถยนต์โดยรวมในปีนี้ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม ที่สำคัญคือการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคโดยเฉพาะบางกลุ่มที่มีความเปราะบางอยู่ จากหนี้ที่สูงและเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินไทยยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น รวมไปถึงความสามารถในการผลิตเพื่อส่งมอบรถยนต์ BEV ได้ตามจำนวนที่รับจอง หลังตัวเลขในงาน Motor Show เริ่มแสดงให้เห็นถึงทิศทางความสนใจต่อรถยนต์ BEV ที่มีมากขึ้น ซึ่งก็จะมีผลต่อยอดขายรถยนต์รวมทั้งประเทศในปีนี้ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จะยังคงประมาณการเดิมของยอดขายรถยนต์ในประเทศปีนี้ไว้ที่ 865,000 ถึง 895,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 1.8% ถึง 5.4% จากปี 2565

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 เม.ย. 2566 เวลา : 19:08:31
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 12:40 pm