ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก หลังนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด และนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แม้ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในขณะนี้ จะอยู่ในช่วงขาลงแล้ว แต่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 2% สำหรับกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ขายออก 2.89 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 927.72 ตัน ส่งผลให้ราคาทองคำหลุดระดับ 2,000 เหรียญลงมาในคืนวันศุกร์ ก่อนกลับขึ้นไปปิดที่ระดับ 2,002.93 เหรียญได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาทองคำ ทั้ง Gold Spot และ Gold Futures ผันผวนค่อนข้างมาก โดยปรับลดลงเกือบ 2% ในคืนวันศุกร์จากแรงเทขาย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวันศุกร์ของสหรัฐฯ ได้แก่ Retail Sales m/m ออกมากลดลงกว่าตลาดคาดการณ์ ขณะที่วันนี้มีตัวเลขที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Empire State Manufacturing Index ตลาดคาดการณ์ออกมาดีขึ้นกว่าเดิม
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับฐานลงมาอีกครั้ง หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 2,050 เหรียญ ทำให้ภาพรวมราคาทองคำเป็นลักษณะของการค่อยๆปรับฐาน โดย Indicator อยู่ในภาวะสมดุลมากขึ้น สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ 1,990 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,025 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,015 เหรียญ และแนวต้าน 2,050 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,005 เหรียญ และแนวต้าน 2,040 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 32,300 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,800 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series J23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,520 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,900 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 20 - 25 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways ลงซื้อขึ้นขาย ติดตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว
ข่าวเด่น