ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับลด หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นักลงทุนมีความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ Beige Book โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ประสบภาวะชะงักงันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการจ้างงานชะลอตัว ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ หลังเกิดวิกฤตภาคธนาคาร
รัฐมนตรีกระทรวงปิโตรเลียมของปากีสถาน เปิดเผยว่าปากีสถานจะซื้อน้ำมันดิบลดราคาจากรัสเซียเป็นครั้งแรก ภายใต้ข้อตกลงใหม่ที่ทำขึ้นระหว่างรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ โดยน้ำมันดิบล็อตแรกจะมาถึงท่าเรือการาจีในเดือน พ.ค. 66 ทั้งนี้ ปากีสถานจะสั่งซื้อแต่น้ำมันดิบเท่านั้น และคาดว่าจะนำเข้าประมาณ 100,000 บาร์เรลต่อวัน
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้ว ปรับเพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 245,000 ราย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 223.5 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกัน อุปสงค์น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 0.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 8.5 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดีเซลในฟูไจราห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปรับเพิ่มขึ้น 15% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 22.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65 นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันดีเซลของสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางต้นทุนค่าขนส่งที่อยู่ในระดับสูง
ข่าวเด่น