เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ความไม่แน่นอนยังเป็นปัจจัยกดดัน"


คาด SET ยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนต่างๆ ได้แก่ 1) ปัจจัยการเมืองในประเทศ 2) ทิศทางดอกเบี้ยเฟด หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวยังไม่ลดดอกเบี้ย และมีโอกาสขึ้นได้ หากเงินเฟ้อยังสูง และ 3) การเจรจาเพดานหนี้สหรัฐ ด้านแนวโน้มดัชนี กรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1550-1560 จุด ส่วนกรอบล่างอยู่ที่ 1533 จุด หากต่ำกว่าเป็นลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1523 จุด

ประเด็นสำคัญ

การเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐมีความคืบหน้า หลัง ปธ. สภาฯ ระบุยังคงมีความเห็นต่าง แต่คาดจะได้ข้อตกลงในปลายสัปดาห์นี้ 

สหรัฐรายงานยอดค้าปลีก เม.ย. +0.4% ต่ำกว่าคาด +0.8% จาก มี.ค. ที่ -0.7%

จีนรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เม.ย. +5.6% ต่ำกว่าคาด ขณะที่ยอดค้าปลีก เม.ย . +18.4% ต่ำกว่าคาด สะท้อน ศก. จีนมีแนวโน้มอ่อนแอลงในช่วงครึ่งหลังปีนี้

IEA เพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกปี 2566 เพิ่มขึ้น 2 แสนบาร์เรล/วัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 102 ล้านบาร์เรล/วัน

ส.อ.ท.รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เม.ย. 66 ลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ภาคการผลิตชะลอจากวันหยุดสงกรานต์

ททท. เตรียมเสนอแผนสร้างความมั่นคงทางการท่องเที่ยวให้รัฐบาลใหม่ แก้ปัญหาวีซ่า-เพิ่ม นทท. ต่างชาติที่มีคุณภาพ

พรรคก้าวไกลมีแผนลดค่าไฟฟ้า 70 สต./หน่วย รื้อสูตรราคาก๊าซฯ ยกเลิกสัญญาค่าความพร้อมจ่าย (AP) เปิดเสรี Solar Rooftop พร้อมทบทวนแผน PDP ใหม่หนุนพลังงานสะอาด

BBL ตั้ง BigC Supercenter เป็น Banking Agent รายใหม่ ให้บริการฝากเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ชำระเงินกว่า 1,600 สาขา

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้น (1 เดือน) มอง SET มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังสิ้นสุดการเลือกตั้ง ส่วนระดับการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับเสถียรภาพและสูตรการจัดตั้งของรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ดีระยะถัดไป (หลัง 1 เดือน) มอง SET มีโอกาสผันผวนไปตามสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งคงต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งจะมีการเปิดประชุมสภาเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไทย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามจากประเด็นเพดานหนี้ รวมทั้งฐานะการเงินของธนาคารขนาดกลางและเล็กของสหรัฐฯ กลยุทธ์จึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : แม้ช่วงสั้น SET มีโอกาสฟื้นตัวหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว แต่ยังต้องติดตามเสถียรภาพของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งอาจกดดันให้ SET ผันผวนได้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Best of the best ซึ่งมีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL GULF สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้ว แนะนำ Let Profit Run

2. หุ้นที่คาดได้รับอานิสงส์จาก Fund Flow ไหลเข้า เนื่องจากรับรู้ผลการเลือกตั้ง และจากบาทแข็งค่า เลือก BBL KBANK ADVANC

3. หุ้นที่คาดหวังจะได้ประโยชน์จากนโยบายเศรษฐกิจดั้งเดิม (Old Economy) และผลการดำเนินงาน 2Q66 ยังมีแนวโน้มเติบโตดี เลือก HMPRO MAKRO MINT AP

4. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากนโยบายทางเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เลือก ADVANC BDMS EA AH

Daily focus

CPALL 2Q66 คาดกำไรปกติจะเติบโต YoY โดยเกิดจากยอดขายที่ดีขึ้นทั้งธุรกิจ CVS และ MAKRO แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ 2H66 กำไรจะดีขึ้น HoH จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงหลังจากรีไฟแนนซ์หนี้ของ MAKRO เสร็จในช่วงปลายเดือนเม.ย.

ADVANC ผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้น YoY อย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดย 2Q66 คาดกำไรจะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY อีกทั้งมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น คือ การที่ TTTBB สามารถเจรจาตกลงอัตราค่าเช่าใหม่กับ JASIF ได้สำเร็จ
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 พ.ค. 2566 เวลา : 12:53:11
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 4:39 am