เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่บริเวณ 1,935 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 1,960 เหรียญ


ทิศทางราคาทองคำ


ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีขึ้นกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ได้แก่ จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน (Unemployment Claims) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และ รายงานดัชนีการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (Philly Fed Manufacturing Index) ออกมาดีขึ้นกว่าตลาดคาดการณ์ บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 102 จุด มาทำจุดสูงสุดที่ระดับ 103.62 จุดในเมื่อวานนี้ ขณะที่เช้านี้ดัชนีดอลลาร์เปิดตลาดที่ระดับ 103.50 จุด โดยภาพรวมตลาดกลับมากังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง  โดยมีเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า เพื่อสกัดเงินเฟ้อให้ลดลง โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักเพียง 10.7% ด้านภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะที่ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อระดับสูง โดย IMF ยังคงแนะนำให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในขณะนี้ ด้านกองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 936.96 ตัน สำหรับการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เริ่มมีความเห็นพ้องกันว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ได้อย่างเร็วที่สุดภายในวันอาทิตย์นี้ โดยเน้นย้ำว่าเป้าหมายของพวกเขาคือการบรรลุข้อตกลง เพื่อขยายเพดานหนี้ของประเทศ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าหลังจากมีการปรับขยายเพดานหนี้แล้ว มีโอกาสที่ดัชนีดอลลาร์จะปรับอ่อนค่าลงได้ สำหรับราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.33% ปิดที่ 71.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 
 
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวลดลงร่วงหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,980 และ 1,970 เหรียญลงมา โดยมุมมองระยะสั้นราคาทองคำเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง อย่างไรก็ตาม ทางเทคนิคอลในระยะสั้นเริ่มมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการกลับตัวของราคาทองคำแต่ตลาดยังไม่ได้รับรู้มากนัก โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดเส้น Fibonacci ที่ระดับ 38.2% อยู่ที่ 1,965 เหรียญลงมา โดยหากราคาทองคำร่วงหลุดเส้น Fibonacci ที่ระดับ 50% ที่ 1,937 เหรียญไปได้ อาจทำให้ราคาทองคำในระยะกลางปรับลดลงต่อได้ โดยมุมมองทางเทคนิคคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสรีบาวน์ได้ในระยะสั้น แต่หากราคาทองคำร่วงหลุดระดับ 1,937 เหรียญลงมา อาจทำให้ทิศทางราคาทองคำในระยะกลางเป็นขาลงได้ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่บริเวณ 1,935 เหรียญ และมีแนวต้านที่ 1,960 เหรียญ

สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,950 เหรียญ และแนวต้าน 1,975 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,940 เหรียญ และแนวต้าน 1,965 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,200 บาท/บาททองคำ

Gold Futures Series M23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,300 บาท

โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 - 15 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 
 
 
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำ Open Short เน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาลง บริหารความเสี่ยงในการลงทุนให้ดี ลดการถือครอง Long Position

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลดการถือครองสถานะ Long Position และยังไม่แนะนำให้เปิดสถานะ หรือหากต้องการเทรดระยะสั้น ให้รอเข้าซื้อเมื่อราคาลงมาบริเวณแนวรับ และรีบปิดเมื่อราคาดีดตัวกลับ ควรมีจุด Stop Loss หากราคาหลุดแนวรับสำคัญ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ระวังความผันผวนของราคา
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 พ.ค. 2566 เวลา : 11:37:23
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 2:54 am