ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลง หลังจากที่ดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดเมื่อวานนี้ได้เพียงวันเดียว โดยราคาทองคำขึ้นมาทดสอบที่บริเวณ 1,980 เหรียญได้เพียงระยะสั้น ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำหลุดกลับมาที่บริเวณ 1,970 เหรียญ และลงมาต่อที่ระดับ 1,960 เหรียญในเช้านี้ ท่ามกลางตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้งหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯในช่วง 2 สัปดาห์ทึ่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานออกมาลดลง และดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟียออกมาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ 103.06 จุด และเคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 102.96-103.37 จุด ขณะที่เข้านี้อยู่ที่ 103.30 จุด ขณะที่การเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน ขณะที่ประธานเฟดหลายสาขายังคงสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อในการประชุมเดือนมิถุนายน จึงช่วยหนุนให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และกดดันทองคำให้ร่วงลงมาอีกครั้ง ขณะเดียวกันสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียยังคงยืดเยื้อต่อไป โดยยูเครนได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธและยุทโธปกรณ์จากกลุ่มประเทศ G7 ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อรัสเซียเป็นอย่างมาก โดยวาระสำคัญของการประชุม G7 ที่ผ่านมามี 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ สงครามยูเครนและอาวุธนิวเคลียร์ และอีกประเด็นหนึ่ง คือ การที่ผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำเหล่านี้เตรียมพร้อมที่จะลดการพึ่งพาการค้ากับประเทศจีน ขณะเดียวกันก็เตรียมพร้อมที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และมั่นคงกับจีนด้วย ด้านค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าขึ้น โดยเช้านี้ทะลุ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ ขึ้นมา ทำให้ภาพรวมของค่าเงินบาทหลังจากที่อยู่ในแนวโน้มทิศทางแข็งค่ากลับมาอยู่ในแนวโน้มทิศทางอ่อนค่า ขณะที่การเมืองของไทยเมื่อวานนี้ พรรคก้าวไกลได้ลงนามเซ็นต์ MOU เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ทำให้หุ้นไทยดีดเหนือ 1,500 จุดได้ ทำให้ภาพรวมการเมืองไทยในระยะสั้นดูจะแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดหุ้นไทยตอบรับเชิงบวกมากขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำมี Technical Rebound ขึ้นไปแตะที่บริเวณ 1,980 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน แต่ไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ก่อนจะกลับร่วงลงมาทำให้ภาพรวมราคาทองคำในระยะสั้นยังอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาลง โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,950 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,975 เหรียญ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นควรปรับกลยุทธ์เป็นแนวโน้มขาลง ขณะที่ราคาทองไทยได้รับอานิสงค์จากค่าเงินบาททำให้ราคาทองไทยยังอยู่ในกรอบระหว่าง 31,900-32,150 บาทต่อบาททองคำ ภาพรวมราคาทองไทยยังคงเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways โดยยังไม่ผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ระดับ 32,000 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,965 เหรียญ และแนวต้าน 1,990 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,955 เหรียญ และแนวต้าน 1,980 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,900 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,300 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,400 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 - 15 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways Down ลงซื้อขึ้นขาย เน้นเทรดระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลดสถานะการถือครอง Long position หรือหากต้องการเทรดระยะสั้นให้เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน บริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม และกำหนดจุดหยุดขาดทุนทุกครั้งที่ทำการเปิดสถานะ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ระวังความผันผวนของราคา
ข่าวเด่น