เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ชะลอตัว ลดความร้อนแรง"


คาด SET มี Upside จำกัดบริเวณแนวต้าน 1540 จุด ตามสัญญาณเทคนิคในระยะสั้นที่เข้าสู่ภาวะ Overbought และ Sentiment ลบ จากตลาดหุ้นสหรัฐจากความกังวลการเจรจาหนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ด้านแนวรับอยู่ที่ 1526 จุด หากต่ำกว่า จะเริ่มเห็นการชะลอตัวชัดขึ้น และมีแนวรับถัดไปที่ 1519 จุด 

ประเด็นสำคัญ

การเจรจาเพดานหนี้รอบใหม่ระหว่าง ปธน. สหรัฐกับ ปธ. สภาฯ ยังไม่มีข้อสรุป โดยทีมเจรจาทั้งสองฝ่ายจะเจรจารายวันจนกว่าบรรลุข้อตกลง

ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น พ.ค. ของสหรัฐสูงสุดในรอบ 13 เดือน ขณะที่ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้น พ.ค. ของยูโรโซน ปรับลดลง

API รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 6.4 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น

รมว. พลังงานซาอุดีอาระเบียเตือนนักเก็งกำไรที่ขายชอร์ตในตลาดให้ระมัดระวังการลงทุน ก่อนที่กลุ่ม OPEC+ จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 4 มิ.ย.

ก. พลังงาน ระบุค่าไฟงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.66) มีแนวโน้มลด 50-70 สต.ต่อหน่วย หลังสัญญาณต้นทุนเชื้อเพลิงการผลิตรอบด้าน ทั้งน้ำมัน-LNG เข้าสู่ขาลง

วานนี้คุณพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล หารือ ส.อ.ท. ประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายหาเสียง แต่ต้องพิจารณากันให้ชัดเจนก่อน โดยยืนยันปรับขึ้นแล้ว มีมาตรการลดผลกระทบแน่นอน

กลยุทธ์การลงทุน

มอง SET ยังคงผันผวนตามสถานการณ์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยระดับการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ ซึ่งคงต้องติดตามต่อไป โดยเฉพาะช่วงเดือน ส.ค. ซึ่งคาดจะมีการเปิดประชุมสภาเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไทย นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามจากประเด็นเพดานหนี้ รวมทั้งฐานะการเงินของธนาคารขนาดกลางและเล็กของสหรัฐฯ กลยุทธ์จึงแนะนำให้ “Selective Buy” 

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : แม้ช่วงสั้น SET มีโอกาสฟื้นตัวหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว แต่ยังต้องติดตามเสถียรภาพของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ซึ่งอาจกดดันให้ SET ผันผวนได้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Best of the best ซึ่งมีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีกำไรในปี 2566-67 เติบโตเฉลี่ยสูงกว่ากำไรของกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Outperform และ Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่บริเวณ -1.0 ถึง -2.0 S.D. จึงมองเป็นโอกาสซื้อสะสม เลือก AU BBL BDMS CPALL

2. หุ้นที่คาดหวังจะได้ประโยชน์จากนโยบายทั้งเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม (Old Economy) และแบบเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เลือก MAKRO MINT ADVANC BDMS EA AH 

ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยฯ จากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ ได้แก่ KEX กลุ่มอสังหา (LPN SIRI PSH QH) กลุ่มอาหาร (ZEN CPF GFPT TU) และ 3) หุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นมาสูงกว่าโควิด-19 และเราแนะนำ Underperform เลือก KTC ASP MST THRE AAV SAT

Daily focus

CRC กำไรอยู่ในทิศทางฟื้นตัวโดดเด่น โดย 2Q66 คาดกำไรจะเติบโต YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายจากธุรกิจค้าปลีกและรายได้จากการให้บริการเช่าที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมาร์จิ้นที่กว้างขึ้น แต่จะอ่อนตัวลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

ADVANC ผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้น YoY อย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดย 2Q66 คาดกำไรจะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY อีกทั้งมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น คือ การที่ TTTBB สามารถเจรจาตกลงอัตราค่าเช่าใหม่กับ JASIF ได้สำเร็จ
 
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 พ.ค. 2566 เวลา : 11:20:25
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 2:56 am