เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบโดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,950 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,985 เหรียญ


 

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ท่ามกลางความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันของประธานเฟดหลายสาขา โดยเมื่อวานนี้ นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และนายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน ว่าที่รองประธานเฟด ส่งสัญญาณสนับสนุนให้เฟดระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย. นี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่เฟดหลายสาขาออกมาแสดงความคิดเห็นสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ตรงกันของประธานเฟด เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ทิศทางราคาทองคำมีความผันผวนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำเมื่อวานนี้มีการแกว่งตัวปรับขึ้นมาเหนือระดับแนวต้านที่ 1,975 เหรียญ และขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,983 เหรียญ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ได้แก่ ADP Non-Farm Employment Change และ ISM Manufacturing PMI ออกมาน้อยกว่าเดิม ขณะที่ Unemployment Claims ออกมาสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะเห็นได้ว่าภาคอุตสาหกรรมมีการชะลอตัวลง ขณะที่การจ้างงานยังแข็งแกร่ง สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจ ได้แก่ Average Hourly Earnings m/m และ Non-Farm Employment Change คาดการณ์ออกมาลดลงจากเดิม ขณะที่ Unemployment Rate คาดการณ์ออกมาสูงขึ้นจากเดิม ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ด้านดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าหลุดระดับ 104 จุด โดยเมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์เปิดที่ระดับ 104.16 จุด และเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 104.50 - 103.50 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 103.50 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้น โดยเมื่อวานนี้ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 34.55 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.59 บาทต่อดอลลาร์ นอกจากนี้ค่าเงินบาทยังได้รับอานิสงค์จากการที่ กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ 2.00% ถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง 6 ครั้ง หลังเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาทดสอบที่ระดับ 34.56 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนดีดกลับขึ้นไปที่ระดับ 34.90 บาทต่อดอลลาร์ และปิดที่ระดับ 34.58 บาทต่อดอลลาร์ในเมื่อววานนี้ สำหรับราคาทองไทยปรับตัวสูงขึ้นจากการปรับขึ้นของราคาทองโลก ซึ่งทำให้ราคาทองไทยกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 32,200 บาทต่อบาททองคำ โดยภาพรวมราคาทองคำไทยยังสามารถปรับขึ้นได้แต่ยังมีขีดจำกัดด้านค่าเงินบาทแข็งค่า โดยราคาทองไทยเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways ระหว่าง 32,900 - 32,300 บาทต่อบาททองคำ สำหรับกองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.45 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 938.11 ตัน

 
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำผ่านจุด Bottom Out มาแล้ว หลังสามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,960 เหรียญได้อย่างมั่นคง ทำให้ภาพรวมในระยะสั้นราคาทองคำกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านระยะกลางที่ระดับ 1,975 เหรียญอีกครั้ง ซึ่งทำให้ภาพรวมระยะสั้นของราคาทองคำอยู่ในสภาวะหยุดการเป็นทิศทางขาลง โดยขึ้นอยู่กับราคาทองคำคืนนี้เป็นสำคัญ หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และราคาทองคำยังสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,980 เหรียญได้ คาดว่าราคาทองคำจะสามารถขึ้นต่อไปได้อีก สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบโดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,950 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,985 เหรียญ สำหรับกลยุทธการลงทุนให้เฝ้ารอดูราคาทองคำเพื่อหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,960 เหรียญ และแนวต้าน 1,995 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,970 เหรียญ และแนวต้าน 2,005 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 32,450 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,750 บาท/บาททองคำ

Gold Futures Series M23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,750 บาท

โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 10 - 20 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำ Open Long เทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น เน้นเทรดระยะสั้นลงซื้อขึ้นขาย ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับเมื่อราคาอ่อนตัว และปิดทำกำไรตามแนวต้าน เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ระวังความผันผวนของราคา
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 มิ.ย. 2566 เวลา : 11:57:50
29-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 29, 2024, 12:36 am