การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 13 - 14 มิ.ย.เชื่อว่าหลายๆคนคงจะคอยจับตาดูกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคนที่กำลังถือสินทรัพย์เสี่ยงสูง หรือถือพันธบัตรไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์สหรัฐ หรือ บาทไทยอยู่ในมือ เพราะจากการแถลงข่าวหลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่แล้วของ เจอโรม พาวเวล ประธานของเฟด ที่ส่งสัญญาณการหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป หรือก็คือสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ ทำให้ตลาดทุนทั่วโลกมีบรรยากาศที่ดีขึ้น มูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นรับข่าวดีจากสัญญาณนำหน้าไปก่อนที่การประชุมของเฟด ก่อนเกิดการผันผวนไปมาเนื่องจากมีเรื่องของความกังวลด้านเงินเฟ้อเข้ามา ที่ยังอยู่ในระดับสูงและตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐ ก็ยังทรงตัวค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ล่าสุดทั้งทางด้านศูนย์วิจัยของธนาคารต่างๆ และทางด้านนักลงทุนส่วนใหญ่ก็ยังเทการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะยังหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ตามการส่งสัญญาณก่อนหน้า เพื่อรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และประเด็นเรื่องของเงินเฟ้อต่อไปว่าจะดำเนินไปอย่างไร ก่อนตัดสินใจอย่างแน่ชัดในครั้งหน้า
ข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า เฟดน่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.00 - 5.25% ด้วยมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์ เพื่อรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจและในระยะข้างหน้าหลังจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในช่วงผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้นในระยะข้างหน้า เนื่องจากผลของนโยบายการเงินมักมีความล่าช้า และตอนนี้ ตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง รวมถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาภาคธนาคารสหรัฐ นำมาซึ่งภาวะสินเชื่อตึงตัว (Credit Tightening) จากทั้งปัญหาธนาคารที่เกิดขึ้นทั้ง Silicon Valley Bank และ First Republic ได้ล่มสลายไปจากเรื่องของการแบกดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไม่ไหว
ส่วนทางด้านของ FedWatch Tool ที่วิเคราะห์การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ ที่ให้บริการโดย CME Group ตามภาพนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ คิดเป็น 70.1% คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยล่าสุดเอาไว้ที่ 5.00 - 5.25% ขณะที่นักลงทุนส่วนน้อย คิดเป็น 29.9% คาดการณ์ว่าเฟด จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 5.25 - 5.50%
อีกทั้งข้อมูลจากกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 28,000 ราย สู่ระดับ 261,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 235,000 ราย ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนที่เฟดมีแนวโน้มในการคงอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้
ในการประชุม FOMC ที่จะถึงนี้ จะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ที่สะท้อนทิศทางนโยบายการเงินในระยะข้างหน้าอีกด้วย ซึ่งเป้าหมายของเฟดที่จะลดเงินเฟ้อให้เหลือ 2% นั้นยังไม่ได้มีการยกเลิกแต่อย่างใด แม้เฟดอาจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 มิ.ย. นี้ แต่ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เฟดก็ยังคงไม่ปิดโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปหากมีความจำเป็น โดยหากเงินเฟ้อกลับมาพุ่งขึ้นอีกรอบท่ามกลางความเสี่ยงจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มผันผวน ก็มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อในการประชุมครั้งต่อๆ ไปได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนก็ยังจับตาการเปิดเผยค่า CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค ที่เอาไว้วัดระดับเงินเฟ้อของทางสหรัฐ ประจำเดือนพ.ค.ที่จะออกในวันที่ 13 มิ.ย. ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่เฟดจะประกาศผลการประชุมของ FOMC ซึ่งอาจจะมีการสวิงของราคาสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงคืนนี้ได้
ข่าวเด่น