เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ 1,940 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,975 เหรียญ ยังคงเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways


ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทรงตัวอยู่ระหว่าง 1,940 - 1,970 เหรียญ โดยเช้านี้ราคาทองคำของเอเชียอยู่ที่ระดับ 1,958 เหรียญ สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนตัวตามความคิดเห็นของประธานเฟด และตัวเลขเศรษฐกิจรายวันที่เข้ามา ขณะที่สัปดาห์นี้นักลงทุนให้ความสำคัญไปที่การประชุมเฟดในวันที่ 13-14 มิ.ย. ซึ่งจะมีการประกาศผลการประชุมเฟดในวันพุธที่ 14 มิ.ย. เวลา 01.00 น. ตามประเทศไทย โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 72.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมครั้งนี้ และให้น้ำหนักเพียง 27.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ด้านตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แม้ตัวเลขภาคการจ้างงานเริ่มอ่อนแอ ได้แก่ จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงาน (Unemployment Claims) และอัตราการว่างงานสหรัฐฯ (Unemployment Rate) ออกมาสูงกว่าคาดก็ตาม ขณะที่ภาคการผลิตปรับลดลงจากเดิม อย่างไรก็ตามตัวเลขด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภค และรายได้ของประชากรในสหรัฐฯยังออกมาค่อนข้างสูง บ่งชี้ว่า CPI ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขสะท้อนเงินเฟ้อที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะเริ่มปรับตัวลดลง แต่ยังลดลงไม่มากนัก โดยตัวเลข CPI ในวันพรุ่งนี้เป็นตัวเลขที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีความสำคัญ และมีผลต่อราคาทองคำค่อนข้างมาก โดยหาก CPI ออกมาลดลงกว่าคาดการณ์ จะส่งผลให้ราคาทองคำดีดขึ้นอย่างแรง เนื่องจากเฟดอาจพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม โดยราคาทองคำมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,985 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวเส้นค่าเฉลี่ยราย 30 และ 50 วัน และหากราคาทองคำสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,985 เหรียญได้ อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องไปได้ ในทางกลับกัน หากตัวเลข CPI ออกมาไม่เป็นไปตามคาดการณ์ หรือปรับลดลงไม่มากนัก อาจส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงได้ โดยหากราคาทองคำไม่สามรถกลับไปยืนเหนือระดับ 1,985 เหรียญได้ จะทำให้ภาพหลักของราคาทองคำเป็นแนวโน้มทิศทางขาลงในระยะกลาง สำหรับตลาด crypto ได้รับผลกระทบจากการที่ก.ล.ต. สหรัฐฯ สั่งฟ้อง Coinbase และ Binance เนื่องจากฝ่าฝืนระเบียบการสอดแนมของรัฐบาล ด้านภาคการส่งออกของไทยชะลอตัว โดยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญหลายประเทศชะลอตัว สำหรับค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าเล็กน้อย โดยลงมาที่ระดับ 34.60 บาทต่อดอลลาร์ หลังไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 34.90 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 34.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยเชิงเทคนิคค่าเงินบาทอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง และระยะยาว โดยยังคงอยู่ในแนวโน้มทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 35.15 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองไทยอยู่ในกรอบระหว่าง 31,900 -32,400 บาทต่อบาททองคำ

 
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิควันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบเพื่อรอข่าวสำคัญ และตัวเลข CPI ในวันพรุ่งนี้ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ 1,940 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,975 เหรียญ ยังคงเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways

สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,950 เหรียญ และแนวต้าน 1,985 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,955 เหรียญ และแนวต้าน 1,990 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,900 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,300 บาท/บาททองคำ

Gold Futures Series M23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,450 บาท

โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 10 - 15 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways ระวังความผันผวนของราคา และติดตามตัวเลข CPI สหรัฐฯ วันพรุ่งนี้

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

เก็งกำไรในกรอบตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน เข้าซื้อตามแนวรับ และปิดทำกำไรตามแนวต้าน ระวังความผันผวนของราคา

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ระวังความผันผวนของราคา

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 มิ.ย. 2566 เวลา : 11:33:21
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 9:32 pm