เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,930 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 1,960 เหรียญ


ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลง โดยมีการแกว่งตัวในช่วงที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้แก่ CPI m/m และ CPI y/y ออกมาลดลงกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวลดลงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ภาพรวมราคาทองคำในช่วงเช้ายังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,950-1,955 เหรียญ ขณะที่ราคาทองคำมีบางช่วงที่ดีดขึ้นไปถึง 1,970 เหรียญแต่ถูกแรงเทขายกลับลงมาปิดที่ 1,943 เหรียญ เรียกได้ว่าเป็นการแกว่งตัวตามที่คาดการณ์ไว้ แสดงให้เห็นว่า ตลาดซึมซับเกี่ยวกับประเด็นภาวะเงินเฟ้อไปพอสมควร รวมทั้งตลาดคาดว่า มีโอกาสราว 76.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 13-14 มิ.ย. ท่ามกลางตลาดให้ความสำคัญเกี่ยวกับสภาพคล่องที่จะหายไปในตลาดการเงินมากขึ้น ซึ่งนำมาสู่การเทขายของกองทุน SPDR ในช่วงก่อนหน้า ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 931.43 ตัน  และจากการที่ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ยื่นฟ้องไบแนนซ์ และคอยน์เบส ส่งผลให้มีนักวิเคราะห์บางรายมองว่าบิทคอยน์อาจได้รับผลกระทบทำให้มีโอกาสปรับร่วงลงค่อนข้างสูง ซึ่งภาพรวมของสภาพคล่องทางตลาดการเงินรวมถึง ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อาจเป็นปัจจัยหลักให้นักลงทุนกลับมามองเรื่องการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินในการลงทุนมากขึ้น ดังนั้นให้ติดตามผลการประชุมของเฟดในการคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้หรือไม่ และถ้อยแถลงนโยบายการเงินว่าจะมีการเข้มงวดมากขึ้นเพียงใด 

 
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำไม่สามารถกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง และระยะยาวได้ แสดงให้เห็นว่าในระยะสั้นราคาทองคำยังอยู่ในลักษณะแนวโน้มทิศทางขาลง ขณะที่ทิศทางราคาทองคำในระยะกลางยังคงเป็นการเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways แต่หากหลุดระดับ 1,935 เหรียญ ราคาทองคำจะอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาลงอย่างสมบูรณ์ และมีโอกาสลงได้ต่อ ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถ Break out ที่ระดับดังกล่าวได้หรือไม่ โดยจะเห็นได้ว่า ปัจจัยทางเทคนิคมักเป็นสัญญาณเตือนก่อนปัจจัยทางพื้นฐาน โดยให้ระวังการกลับทิศทางเป็นแนวโน้มขาลงอย่างถาวร เนื่องจากราคาทองคำในทางเทคนิคดูเหมือนจะเป็น Ascending triangle มีฐานอยู่ที่บริเวณ 1,940 เหรียญ ดังนั้นหากราคาทองคำหลุดระดับ 1,940 เหรียญ ยังไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อ และหากหลุด Fibonacci Retracement 38.2% ราคาทองคำน่าจะมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,920 เหรียญ ขณะเดียวกันราคาทองไทย หากในคืนนี้ไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 32,250 บาทต่อบาททองคำได้ ราคาทองไทยอาจเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาลง ซึ่งอาจเป็นข่าวดีของนักลงทุนไทยที่อยู่ในสถานะ Short เนื่องจากราคาทองไทยอยู่ในลักษณะ Sideways มานาน และอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น กลาง และยาว รวมถึงยังคงลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมในระยะสั้น ซึ่งหากราคาทองคำไทยหลุดแนวรับระยะสั้นที่ 31,750 เหรียญลงมา จะสามารถยืนยันได้ว่าทองไทยเป็นแนวโน้มขาลง ถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าขึ้นก็ตาม กล่าวโดยสรุป ราคาทองคำเริ่มกลับทิศทางเป็นแนวโน้มขาลง หลังจากที่เคลื่อนตัวในกรอบ Sideways อยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ยระยะ 30 วัน และ 50 วันมานาน  โดยขณะนี้ราคาทองคำเริ่มหลุดลงมา โดยหากคืนนี้หากราคาทองคำไม่สามารถขึ้นได้ ก็มีโอกาสที่จะร่วงต่อเนื่อง โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,930 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 1,960 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนแนะนำว่าหากราคาทองคำยืนเหนือระดับ 1,960 เหรียญ ควรขายทำกำไรก่อน และหากหลุดระดับ 1,930 เหรียญ ควรระมัดระวังการกลับทิศทางของราคาทองคำ หรือควรทำ Stop Loss

สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,935 เหรียญ และแนวต้าน 1,965 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,945 เหรียญ และแนวต้าน 1,975 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,600 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,100 บาท/บาททองคำ

Gold Futures Series M23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,300 บาท

โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 10 - 15 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
 
แนะนำลงทุนในกรอบตามทิศทางการเคลื่อนตัวของราคาในลักษณะ Sideways Down เน้นเทรดเก็งกำไรระยะสั้น ระวังความผันผวนของราคา รวมถึงบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม กำหนดจุดหยุดขาดทุนทุกครั้งที่ทำการเปิดสถานะ และติดตามผลการประชุมเฟดคืนนี้

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลดการถือครองสถานะ Long Position และยังไม่แนะนำให้เปิดสถานะ แต่หากต้องการเทรดระยะสั้น ให้เข้าซื้อตามแนวรับ และปิดทำกำไรตามแนวต้าน เน้นการควบคุมความเสี่ยง และกำหนดจุด Stop Loss

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ระวังความผันผวนของราคา

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 มิ.ย. 2566 เวลา : 12:04:51
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 9:42 pm