คาด SET แกว่งในกรอบระหว่าง 1550-1570 จุด รอปัจจัยใหม่ ขณะที่ยังมีความไม่แน่นอนเรื่องแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด และสถานการณ์การเมืองในประเทศ อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมมีจุดติดตามบริเวณ 1540 จุด หากไม่ต่ำกว่า คาดว่ายังเป็นสัญญาณที่ดีต่อการปรับขึ้นได้ โดยมีแนวต้านถัดไปจาก 1570 จุด อยู่ที่ 1580 จุด
ประเด็นสำคัญ
ธปท. ระบุความเสี่ยงจากเอลนีโญกระทบ ศก. ภาพรวม มีผลต่อราคาอาหาร-เงินเฟ้อเพิ่มสูง กังวลภาคเกษตรอาจเสียหายกว่า 4-6 หมื่นลบ.
กกร. มีมติต่ออายุสินค้าและบริการควบคุม 51 รายการ ออกไปอีก 1 ปีเพื่อช่วยกำกับดูแลค่าครองชีพประชาชน
ไนท์แฟรงก์ (ประเทศไทย) ระบุตลาด Data Center ในไทยเติบโตมาก บ. Tech จากสหรัฐและจีนเข้ามาลงทุน โดย 1Q66 ตลาด Data Center ไทยอยู่ที่ 269 MW เติบโตกว่า 30% จากปลายปี 2565
ติดตามแอนโทนี บลิงเคน รมว. ตปท. สหรัฐ หารือ รมว. ตปท. จีน นับเป็นการเยือนกรุงปักกิ่งครั้งสำคัญในรอบกว่า 5 ปี ท่ามกลางตึงเครียดมากขึ้นของ 2 ปท. ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ปธน. ปูตินระบุรัสเซียติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในเบลารุสเป็นการส่งคำเตือนถึงชาติตะวันตกว่ารัสเซียจะไม่สามารถพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์ได้
คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการ Fed และโทมัส บาร์กิน ปธ. Fed สาขาริชมอนด์ แสดงความเห็นหนุน Fed ปรับขึ้น ดบ. ต่อ ลดทอนความคาดหวังที่ Fed จะยุติการปรับขึ้น ดบ. หรืออาจลด ดบ. ใน ธ.ค.ปีนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ มิ.ย. โดย ม. มิชิแกน เพิ่มขึ้นดีกว่าคาดและสูงสุดในรอบ 4 เดือน
กลยุทธ์การลงทุน
มอง SET จะยังผันผวนในกรอบ และมี Upside จำกัด หลังขาดปัจจัยสนับสนุน ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ล่าช้ากว่าตลาดคาด อีกทั้งแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองไทยจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ชัดเจน ยังคงเป็นปัจจัยลบระยะสั้นต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET ผันผวนในกรอบและมี Upside จำกัด หลังขาดปัจจัยสนับสนุน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดีทั้ง YoY และ QoQ เลือก AOT BBL ADVANC MINT OSP BDMS BEM และหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก KCE ONEE
2. หุ้นที่คาดจะฟื้นตัวได้ดี หลัง SET ย่อตัวแรง เลือก AP HMPRO
ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ และ 2) หุ้นที่เราแนะนำ Underperform หรือมีความเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม AAV (ราคาสูงเกิน pre-covid 19) MST NRF
Daily focus
BEM การเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเต็มรูปแบบจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น ขณะที่ 2Q66 และ 3Q66 คาดกำไรจะดีขึ้น QoQ และ YoY จากปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งจะมีบันทึกเงินปันผลจาก TTW และ CKP
OSP กำไรปกติน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปทุกไตรมาส โดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนให้กำไรปกติ 2Q66 เติบโต QoQ และเติบโตได้เล็กน้อย YoY จากฐานสูง จากนั้นจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ ใน 3Q66
ข่าวเด่น