ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ โดยปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากที่ไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 30 วัน บริเวณ 1,970 เหรียญได้ โดยราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบบริเวณ 1,965 เหรียญ ก่อนปรับลดลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,947 เหรียญ และมาปิดที่ 1,952 เหรียญในเมื่อวานนี้ โดยมีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ท่ามกลางตลาดยังคงรอปัจจัยใหม่เข้ามา รวมถึงติดตามการแถลงรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี คาดว่าแถลงการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นการพูดถึงภาพรวมของเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งคาดว่าเฟดน่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก แม้การประชุมของเฟดที่ผ่านมา เฟดจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.00-5.25% ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาทองคำยังไม่มีความชัดเจนในทิศทาง ด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 934.03 ตันภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 5.53 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 16.39 ตัน ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ยังคงอยู่ในระดับล่าง โดยอยู่ที่บริเวณ 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ซาอุฯ ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งจะเริ่มในเดือนก.ค. สำหรับข่าวส่วนใหญ่ยังคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับหุ้น STARK หลังจากที่บริษัทไม่สามารถนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ได้ตามกำหนด และขอขยายเวลาออกไปอีกหลายครั้ง ซึ่งเกิดจากการทุจริต ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินอย่างมาก และส่งผลต่อความเชื่อมั่นลดลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideways โดยยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบตลาด สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,940 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,965 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,945 เหรียญ และแนวต้าน 1,970 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,950 เหรียญ และแนวต้าน 1,975 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,200 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,400 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 - 10 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน ลงซื้อขึ้นขาย หรือใช้กลยุทธ์ Wait & See เพื่อรอดูความชัดเจนของทิศทาง หลังนายเจอโรม ประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีในวันพรุ่งนี้
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ติดตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ติดตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
ข่าวเด่น