เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "เกิดสัญญาณพักตัว"


แรงขายในหุ้น DELTA กดดัน SET และสร้างสัญญาณเทคนิคให้เป็นลบ โดยหลุดต่ำกว่า 1540 จุด  ทำให้มอง SET เข้าสู่การพักตัว โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1530 และ 1520 จุด ตามลำดับ ส่วนการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1550-1560 จุด ประเด็นสำคัญ ติดตามประธานเฟดแถลงนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส

ประเด็นสำคัญ

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลด ดบ. LPR ประเภท 1 ปีลง 0.10% สู่ระดับ 3.55% จากระดับ 3.65% และปรับลด ดบ. LPR ประเภท 5 ปีลง 0.10% สู่ระดับ 4.2% จากระดับ 4.3%

UBS ปรับลดคาดการณ์ GDP จีนปีนี้เหลือ 5.2% จาก 5.7% ขณะที่ Citigroup ปรับลงเหลือ 5.5% จาก 6.1% และ Goldman Sachs ปรับลงเหลือ 5.4% จาก 6%

CNPC คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันดิบในจีนจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.5% สู่ระดับ 740 ล้านตันในปี 2566 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

อุปสงค์พลาสติกในจีนตกต่ำตามการฟื้นตัวของ ศก. ที่ยังไม่สดใส ส่งผลกดดันอัตรากำไรของผู้ประกอบการที่ผลิตปิโตรเคมีจากแนฟทาต่ำสุดตั้งแต่ ต.ค. 65

พาณิชย์ ระบุ 5M66 ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยกว่า 4.5 หมื่นลบ. เม็ดเงินลงทุนใน EEC กว่า 1 หมื่นลบ. นำโดย นลท. ญี่ปุ่น-จีน-ฮ่องกง

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ระบุผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย โดยสถาบัน IMD ประจำปี 2566 ไทยได้รับการจัดอันดับอยู่อันดับที่ 30 ดีขึ้น 3 อันดับจากปีก่อนหน้า

กลยุทธ์การลงทุน

มอง SET จะยังผันผวนในกรอบ และมี Upside จำกัด หลังขาดปัจจัยสนับสนุน ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ล่าช้ากว่าตลาดคาด อีกทั้งแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองไทยจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ชัดเจน ยังคงเป็นปัจจัยลบระยะสั้นต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน 

Weekly Portfolio : มอง SET ผันผวนในกรอบและมี Upside จำกัด หลังขาดปัจจัยสนับสนุน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดี YoY เลือก AOT BBL ADVANC MINT OSP BDMS BEM และหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก KCE ONEE

2. หุ้นที่คาดจะฟื้นตัวได้ดี หลัง SET ย่อตัวแรง เลือก AP HMPRO

ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ และ 2) หุ้นที่เราแนะนำ Underperform หรือมีความเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม AAV (ราคาสูงเกิน pre-covid 19) MST NRF

Daily focus

AOT ปี FY2566 (ต.ค. 65-ก.ย. 66) คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวกลับมามีกำไร 1.5 หมื่น ลบ. โดยกำไรจะเร่งตัวขึ้นในระยะถัดไป ด้วยแรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เติบโตเพิ่มขึ้น และการกลับมาเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ

HMPRO มีปัจจัยกระตุ้นเชิงบวกจาก SSS ที่เติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มพาณิชย์ใน 2Q66TD และความเสี่ยง downside จากการเปลี่ยนนโยบายของรัฐที่ค่อนข้างมีจำกัด น่าจะช่วยให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดได้หลังราคาหุ้น underperform SET อยู่ 2% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 มิ.ย. 2566 เวลา : 11:08:10
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 7:55 pm