SET ลงมาใกล้จุดต่ำเดิมบริเวณ 1490-1500 จุด ขณะที่สัญญาณเทคนิคในภาพระยะสั้นเข้าสู่ภาวะ oversold ทำให้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์จากบริเวณแนวรับดังกล่าว ด้านกรอบบนอยู่ที่ 1520-1525 จุด หากขึ้นทะลุผ่านจะเห็นการฟื้นตัวชัดขึ้น ส่วนกรณีต่ำกว่า 1490 จุด จะเป็นลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1470-1475 จุด
ประเด็นสำคัญ
ถ้อยแถลง ปธ. Fed ต่อคณะ กมธ. ธนาคารประจำวุฒิสภาวานนี้ ย้ำว่า Fed จะยังคงเดินหน้าขึ้น ดบ. โดยอาจปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง หาก ศก. ปรับตัวตามที่คาดการณ์ไว้
สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์ที่แล้วที่ 2.64 แสนราย สูงกว่าคาด และสูงสุดนับตั้งแต่ ต.ค. 2564
รมว. คลังสหรัฐ ประเมินความเสี่ยง ศก. สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยน้อยลง
EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล
BoE มีมติ 7-2 ประกาศปรับขึ้น ดบ. 0.50% สู่ระดับ 5.00% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 และสูงกว่าคาดว่าจะปรับขึ้นเพียง 0.25%
กกพ. ระบุค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค.66 อาจลดลงเพียง 20 สต./หน่วย จากประมาณค่าไฟลดลงรวม 48 สต./หน่วย เพราะต้องนำ 28 สต./หน่วยคืนหนี้ กฟผ. ที่รับภาระกว่า 1 แสนลบ.
ส.อ.ท. รายงานยอดส่งออกรถยนต์ พ.ค. เพิ่มขึ้น 12.3%YoY ขณะที่ยอดผลิตรถยนต์ที่ 65,088 คัน เพิ่มขึ้น 16.5%YoY โดยปีนี้ยังคงเป้าผลิตรถยนต์ที่ 1.95 ล้านคัน
เงินบาทแตะระดับ 35 ต่อดอลลาร์ อ่อนค่าสุดรอบ 3 เดือน ทั้งยังอ่อนสุดในภูมิภาควานนี้ คาด นลท. กังวลปัจจัยการเมืองการตั้งรัฐบาลล่าช้า ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้ง เตรียมลดอันดับเครดิตบริษัทไทยจำนวนหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุน
มอง SET จะยังผันผวนในกรอบ และมี Upside จำกัด หลังขาดปัจจัยสนับสนุน ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ล่าช้ากว่าตลาดคาด อีกทั้งแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองไทยจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ชัดเจน ยังคงเป็นปัจจัยลบระยะสั้นต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET ผันผวนในกรอบและมี Upside จำกัด หลังขาดปัจจัยสนับสนุน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดี YoY เลือก AOT BBL ADVANC MINT OSP BDMS BEM และหุ้นที่คาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เลือก KCE ONEE
2. หุ้นที่คาดจะฟื้นตัวได้ดี หลัง SET ย่อตัวแรง เลือก AP HMPRO
ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่ม PTT ออกไปก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงหรือความไม่ชัดเจนของโครงสร้างราคาพลังงานจากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ และ 2) หุ้นที่เราแนะนำ Underperform หรือมีความเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม AAV (ราคาสูงเกิน pre-covid 19) MST NRF
Daily focus
OSP กำไรปกติน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปทุกไตรมาส โดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนให้กำไรปกติ 2Q66 เติบโต QoQ และเติบโตได้เล็กน้อย YoY จากฐานสูง จากนั้นจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ ใน 3Q66
KCE มองผลประกอบการคาดจะกลับมาเติบโตอีกครั้งใน 2H66 จาก Pent up demand โดยเฉพาะจากลูกค้าฝั่งยุโรปซึ่งคาดจะชดเชยการปรับลดราคาขายให้กับลูกค้าได้ และคาดจะดีต่อเนื่องไปถึงปี 2567 ที่มีการขยายกำลังผลิตครั้งใหญ่
ข่าวเด่น