ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น หลังลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,893 เหรียญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาทองคำดีดตัวขึ้นท่ามกลางการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯชะลอตัวลง โดยดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าหลุดระดับ 103 จุด ลงมาที่ระดับ 102.96 จุดในเช้านี้ ซึ่งดัชนีดอลลาร์มีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 104.65 จุด และมีแนวต้านระยะสั้นที่ระดับ 103.65 จุด ส่งผลให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้น ด้าน FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือน ก.ค. สำหรับกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ขายออก 2.6 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 921.9 ตัน ภาพรวมเดือนมิถุนายน ขายสุทธิ 17.66 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 4.26 ตัน ด้านเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะค่อนข้างชะลอตัวเช่นเดิม ขณะที่ไทยยังรอความชัดเจนด้านการเมือง ส่งผลให้ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 35.16 บาทต่อดอลลาร์ในเช้านี้
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำทางเทคนิคยังคงอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น และระยะกลาง โดยราคาทองคำมีการ Rebound ขึ้นมา หลังลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,893 เหรียญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยการ Rebound นี้จะมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,935 เหรียญ และแนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ 1,950 เหรียญ ซึ่งเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันจะอยู่ที่ระดับ 1,945 เหรียญ และ 50 วันอยู่ที่ระดับ 1,967 เหรียญ โดยราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง ซึ่งมี Technical Rebound ขึ้นมา โดยตาม Fibonacci 38% อยู่ที่ระดับ 1,963 เหรียญ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,900 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,930 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,930 เหรียญ และแนวต้าน 1,960 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,910 เหรียญ และแนวต้าน 1,940 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,200 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,300 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 10 - 30 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำนักลงทุนปรับกลยุทธ์ตามแนวโน้ม Sideways Down ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน รวมถึงบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสม กำหนดจุดหยุดขาดทุนทุกครั้งที่ทำการเปิดสถานะ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เทรดระยะสั้นเก็งกำไรในกรอบ รอเข้าซื้อเมื่อราคาลงมาบริเวณแนวรับและรีบปิดเมื่อราคาดีดตัวกลับ เน้นการควบคุมความเสี่ยง และควรมี Stop Loss หากราคาหลุดแนวรับสำคัญ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ติดตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
ข่าวเด่น