เปิดเทศกาลแล้ว! สำหรับงาน Thailand Coffee Fest 2023 เทศกาลของคนรักกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “Good Coffee for Everyone” เพื่อที่จะชวนทุกคนมาค้นพบความหมายของ “กาแฟที่ดี” พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ “กาแฟที่ดี” ต่อโลก และดีต่อเราอย่างยั่งยืน ที่ในปีนี้เนรมิตพื้นที่จัดงานกว่า 20,000 ตร.ม. เป็นดินแดนสำหรับคนรักกาแฟที่ครบครันที่สุดที่คนรักกาแฟต้องการตั้งแต่บูทร้านค้ามากมายกว่า 331 บูท การแข่งขันระดับโลกที่ให้ทุกคนมาร่วมลุ้นว่าใครจะได้เป็นบาริสต้าแชมป์ประเทศไทยเพื่อเป็นตัวแทนไปแข่งขันบนเวทีระดับโลก และการเสวนาให้ความรู้โดยกูรูชั้นนำในวงการกาแฟที่จะมาไขทุกข้อสงสัยที่เกี่ยวกับกาแฟแบบหมดเปลือก ตลอดวันที่ 13 – 16 ก.ค.นี้ ณ IMPACT Exhibition Center Hall 5 – 8 เมืองทองธานี
นางสาวณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย กล่าวว่า สมาคมกาแฟพิเศษไทย SCATH มุ่งเน้นพัฒนาและสนับสนุนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนในวงการกาแฟตั้งแต่ เกษตรกร คนแปรรูป โรงคั่วกาแฟ บาริสต้า ไปจนถึงผู้บริโภค ให้สามารถสร้างสรรค์และบูรณาการวัฒนธรรมกาแฟได้อย่างอย่างยั่งยืน โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในการผลักดันให้อุตสาหกรรมกาแฟเติบโตอย่างมีคุณภาพทั้งองคาพยพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดในและต่างประเทศอย่างมั่นคง พร้อมรับพฤติกรรมการบริโภคกาแฟที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคสมัยใหม่ ที่ผู้บริโภคต่างมองหากาแฟที่ดีทั้งในแง่ของรสชาติ สัมผัส ประสบการณ์ รวมทั้งยังต้องดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
ตลอดระยะเวลาแห่งความสำเร็จตลอด 8 ปีที่ Thailand Coffee Fest ได้สร้างปรากฎการณ์ที่เชื่อมโยงผู้คนผ่านกาแฟ จนเกิดเป็นโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดและสร้างเครือข่ายเพื่อพบปะ แลกเปลี่ยน และเรียนรู้วิถีทางแห่งกาแฟ สู่การจัดงานในปีนี้ที่ขยายความสำเร็จออกไปให้ไกลกว่าเดิม เพื่อเพิ่มโอกาสและกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก รวมทั้งปีนี้ยังมีกูรูในวงการกาแฟจากนานาประเทศตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมถึง 11 ประเทศ ประกอบด้วย สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, กัวเตมาลา, ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา, อินโดนีเซีย, เยเมน, แคนาดา, อิตาลี, ปานามา, โคลัมเบีย ซึ่งถือเป็นการยกระดับกาแฟไทยสู่สากลในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และวัฒนธรรมกาแฟร่วมกัน
.jpg)
เพื่อยกระดับความเป็นสากลมากขึ้น Thailand Coffee Fest 2023 เพิ่มลิขสิทธิ์การแข่งขัน Thailand Coffee Event 2024 เพื่อเฟ้นหาตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันบนเวทีระดับโลก 2 รายการ ประกอบด้วย รายการแข่งขัน Thailand National Brewers Cup Championship 2024 และรายการแข่งขัน Thailand National Barista Championship 2024 จะเกิดขึ้นที่โซน Coffee Arena ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของทุกวัน ซึ่งบรรยากาศความสนุกสนานของแต่ละรอบการแข่งขันจะแตกต่างกันไป เพราะผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนก็พกฝีมือและความมั่นใจในประสบการณ์มาแบบเต็มร้อย ทั้งกองเชียร์ ทีมงานฝ่ายสนับสนุนแบบอัดแน่นเวที เพื่อเตรียมรับมือเผชิญกับความกดดันและความท้าทายจากคณะกรรมการตัดสินจากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งผู้ชนะจากรายการดังกล่าว จะเป็นตัวแทนประเทศไทยที่มีส่วนสำคัญ ในการผลักดันเมล็ดกาแฟพิเศษไทย ให้นำไปอวดโฉมผ่านแต่ละมิติการแข่งขันในนามแชมป์บาริสต้าจากประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันกาแฟซิกเนเจอร์สัญชาติไทย World Es Yen Championship 2023 เวทีประลองฝีมือนักชงกาแฟเอสเพรสโซ่เย็น เมนูกาแฟสัญชาติไทยแท้ที่มีรสชาติกาแฟเข้มข้นหวานมัน เย็นสดชื่น เหมาะกับอากาศร้อน ๆ ของบ้านเรา ซึ่งเป็นเวทีที่สนุกสนานทุกปี เป็นสูตรเด็ดเคล็ดลับที่ไม่มีผิดถูก เมนูซิกเนเจอร์ที่หาดื่มคลายร้อนได้ที่ประเทศไทยเท่านั้น เป็นเวทีการประกวดที่ทุกคนรอคอย ซึ่งใช้เวลาเปิดรับสมัครไม่ถึง 30 นาที มีผู้สมัครเต็มโควต้าที่วางไว้ โดยสามารถติดตามบรรยากาศความสนุกสนานของการแข่งขันได้ในวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ ที่โซน Coffee People ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้ที่โซนเวทีกลาง Coffee Stage ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม ตั้งแต่เวลา 12.00 – 16.30 น.
นายช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ปีนี้งาน Thailand Coffee Fest 2023 ขยายพื้นที่การจัดงานจาก 15,000 ตร.ม. เป็น 20,000 ตร.ม. จัดแบ่งเป็น 9 โซน จำนวน 331 บูธ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนรักกาแฟ โดยมีบูทร้านค้าจากผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 108 ร้านค้ารอบงาน รวมทั้งบูทจากพาร์ทเนอร์ชั้นนำของประเทศที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์กาแฟที่มีคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าและการเติบโตให้ธุรกิจ รวมทั้งผู้บริโภคยังได้มีโอกาสลิ้มลองกาแฟสุดพิเศษภายในงาน ควบคู่กับการเข้าถึงสินค้า อุปกรณ์ และบริการที่เกี่ยวข้องกับกาแฟอย่างครบครัน
สำหรับครั้งนี้มีกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โซน Coffee Art ที่ร่วมจัดโดย Happening จำหน่ายผลงานศิลปะที่บอกเล่าความสุนทรีย์ของกาแฟในรูปแบบ 2D, 3D และ Art Toy จากนักออกแบบแถวหน้าของไทย, กิจกรรม Coffee Zero Waste ร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ที่ทำให้งานนี้เป็น Carbon Neutral Event
นอกจากนี้ ยังมีเวทีเสวนาที่ได้เติมเต็มความรู้จากกูรูชั้นนำแถวหน้าของวงการกาแฟ ผ่านมิติงานเสวนาพิเศษที่รวบรวมคนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่เป็นคีย์แมนสำคัญในการผลักดันวงการกาแฟพิเศษไทยให้ทัดเทียมกับนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นงานเสวนาภายใต้หัวข้อ “คุณค่าของกาแฟพิเศษไทยของคุณคืออะไร ทิศทางการสร้างมูลค่าของกาแฟพิเศษไทยเป็นอย่างไร” ซึ่งมีคุณอายุ จือปา ผู้ก่อตั้ง Akha Ama Coffee ที่ทำให้แหล่งปลูกและชาติพันธุ์อาข่าเป็นที่ยอมรับ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนอาข่าให้ดีขึ้น, คุณวรัตต์ วิจิตรวาทการ ผู้ก่อตั้ง Roots Coffee ร้านกาแฟชื่อดังที่กาแฟทุกแก้ว ทุกเมล็ดที่เบลนด์ใช้เป็นกาแฟพิเศษไทย 100% ที่โซน Coffee Stage ในวันศุกร์ที่ 14 กรกฏาคม เวลา 12.00 – 13.00 น.
และในช่วงเย็นวันเดียวกัน เวลา 17.00 – 18.00 น.พร้อมเสริมความรู้ไขทุกข้อข้องใจจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญในวงการกาแฟ กับคุณเคเลบ จอร์แดน ผู้ก่อตั้ง Gem Forest Coffee หักหอกคนสำคัญที่สร้างองค์ความรู้ในการปลูกกาแฟกับเกษตรกรที่แหล่งปลูกบ้านมณีพฤกษ์ จังหวัดน่าน จนได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟพิเศษไทย 2023 ทั้ง 3 Process, คุณศึกษิต เทพอารีย์ ผู้ก่อตั้ง Happy Espresso และผู้จัดการส่วน QA ของ Cafe Amazon ผู้บุกเบิกวงการกาแฟพิเศษไทยและเบื้องหลังการผลิตกาแฟ Amazon Coffee ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ความสำเร็จและเทคนิคการสร้างกาแฟที่ดีตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ
สำหรับในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม เวลา 12.00 – 13.00 น. ชวนทุกคนร่วมตระหนักถึงวิกฤตกาแฟต้นน้ำกับการตัดป่า ผลกระทบที่โลกกาแฟกำลังเผชิญ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจากโครงการพระราชดำริภาคเหนือ สำนักสนองงานพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ คุณวิทยา ไพศาลศักดิ์ อดีตผอ.ส่วนประสานงานโครงการ ร่วมแสดงความคิดเห็นและส่งเสริม การพัฒนาผลผลิตกาแฟในพื้นที่เพื่อให้คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้ ยั่งยืนทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และเสวนาสุดท้ายวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม เวลา 17.00 – 18.00 น. กับการป้ายยานักช้อปสาย Home Brewers ที่จะมาแนะนำเทคนิคข้อดีข้อเสีย ในการเลือกอุปกรณ์การทำกาแฟด้วยตัวเองจากที่บ้าน ต้องเริ่มต้นจากอะไรกับกูรูนักป้ายยาในวงการกาแฟ อาทิ คุณสมณรงค์ ขันธะชวนะ เจ้าของเพจแชมป์ว่าง, คุณชนิดา บวรสถิตชัย เจ้าของเพจ Midnight Barista เป็นต้น
รวมถึงในครั้งนี้จะมีนิทรรศการพิเศษที่จะบอกเล่าความเชื่อมโยงระหว่างข้าวและกาแฟ ที่มีอะไรเหมือนกันมากกว่าที่คิด กับเรื่องราวของ “ข้าวพื้นบ้าน” ด้วยการชิมข้าว 15 สายพันธุ์ที่กำลังจะหายไปจากท้องนาทั่วประเทศ พร้อมเรียนรู้เรื่องข้าวและสิ่งที่เกิดขึ้นในท้องนาไทยแบบลงลึกผ่านสำรับ “กับข้าว” เพื่อชวนให้คนไทยรู้จักสายพันธุ์ข้าวเพิ่มขึ้นและสร้างทางเลือกใหม่ ๆ ในการบริโภคข้าวไทยให้กับผู้บริโภค ธุรกิจร้านอาหาร และเกษตรกร
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาดในงาน Thailand Coffee Fest 2023 : Good Coffee for Everyone เทศกาลของคนรักกาแฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ IMPACT Exhibition Center Hall 5 – 8 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. หรือติดตามรายละเอียดกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายภายในงานได้ที่ เฟสบุ๊ก Thailand Coffee Fest คลิก https://www.facebook.com/ThailandCoffeeFest หรือเว็บไซต์ www.thailandcoffeefest.org 
ข่าวเด่น