ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,950 เหรียญได้อย่างแข็งแกร่ง หลังจากทะลุขึ้นมาทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,980 เหรียญก่อนจะย่อตัวกลับลงมา ทำให้ภาพรวมราคาทองคำมีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนนี้เป็นครั้งสุดท้าย โดยจะคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 5.50% ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามจากความคาดการณ์ของตลาดที่เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ยังคงทรงตัวอยู่ที่บริเวณ 100 จุดโดยมีบางช่วงหลุดระดับ 100 จุดลงมา ด้านสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของจีนลดลงสู่ระดับ 8.467 แสนล้านดอลลาร์ จาก 8.689 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. (ลดลงประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.55%) สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ได้แก่ Housing Starts และ Building Permits ปรับตัวลดลงจากเดิม บ่งบอกถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยองค์รวมของสหรัฐฯมีความอ่อนแอลงซึ่งอาจจะส่งผลกระทบไปถึง 2-3 เดือนข้างหน้า โดยวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Unemployment Claims และ Philly Fed Manufacturing Index ซึ่งคาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่ Existing Home Sales คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงจากเดิม โดยหาก Unemployment Claims ออกมาเพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์ บ่งชี้ถึงการจ้างงานที่อ่อนแอลง ซึ่งอาจส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง และทองคำดีดตัวขึ้นได้ต่อในคืนนี้ ด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 1.73 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 913.8 ตัน ด้านค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าลงอย่างรวดเร็วหลุดระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ลงมา โดยเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.03 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนแข็งค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 33.87 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากการเมืองในประเทศไทย หลังจากเมื่อวานนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่สามารถได้รับการเสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมรัฐสภาเป็นครั้งที่ 2 ส่งผลให้ตลาดคาดว่าอาจมีการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองอื่น โดยไม่ได้ให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งภาพรวมการแข็งค่าของค่าเงินบาทกดดันให้ราคาทองไทยเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways โดยยังไม่สามารถปรับขึ้นได้ตามราคาทองคำโลก
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่าทิศทางราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างสมบูรณ์ทั้งในระยะสั้น และระยะกลาง ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนที่ถือครองสถานะ Short ต้องปรับกลยุทธ์การลงทุน สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ 1,955 เหรียญ และแนวต้านที่ 2,000 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,980 เหรียญ และแนวต้าน 2,025 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,960 เหรียญ และแนวต้าน 2,005 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,500 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 31,900 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q23 จะมีแนวรับที่ระดับ 31,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,200 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 - 25 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำ Open Long เน้นเทรดซื้อขายตามกรอบทิศทางขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน เน้นเทรดระยะสั้น เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ทยอยปิดสถานะทำตามกรอบแนวรับเมื่อราคาลงมา ลดความเสี่ยงของพอร์ต ยังไม่แนะนำให้เปิดสถานะเพิ่ม หากอยากเปิดสถานะใหม่ควรทำบริเวณแนวต้านและมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น