SET เริ่มฟื้นตัวจากแนวรับ 1514 จุด ซึ่งใช้เป็นจุดติดตาม หากไม่ต่ำกว่า ยังเกิดสัญญาณรีบาวด์ทางเทคนิคได้อยู่ โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1540 จุด หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณบวกในระยะสั้นต่อ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1550 จุด ประเด็นสำคัญ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนนี้
ประเด็นสำคัญ
• ปธน. โจ ไบเดน ได้ลงนามในคำสั่งที่จะห้ามการลงทุนบางอย่างของสหรัฐ ในเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนในจีน และกำหนดให้รัฐบาลแจ้งการระดมทุนในภาคส่วนเทคโนโลยีอื่นๆ
• ราคาข้าวในเอเชียพุ่งสูงสุดรอบ 15 ปี เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับกำลังการผลิตอาหารหลักทั่วโลก เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งคุกคามผลผลิตในประเทศไทย และอินเดียสั่งห้ามการส่งออกบางส่วน
• ราคาหุ้นและพันธบัตรของ Country Garden ผู้พัฒนาอสังหาฯ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดใหญ่อันดับ 6 ของจีนร่วงลง หลังนักลงทุนไม่ได้รับการชําระเงินคืนและดอกเบี้ยตามกำหนด ทําให้ความเชื่อมั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่วิกฤติแย่ลงไปอีก
• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าคาดที่ 2.3 ล้านบาร์เรล
• ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปและในสหรัฐปรับขึ้น 29%DoD และ 6.6%DoD จากประเด็นข่าวคนงานในโรงงาน LNG ในออสเตรเลียหยุดประท้วง
• ธปท. เตรียมปรับลดประมาณการ GDP ปีนี้ลงจาก 3.6% จากการส่งออกลดลงหลัง ศก.โลก-จีนชะลอตัว โดยคาด 2Q66 อาจต่ำกว่าเป้า ทั้งยังส่งสัญญาณตรึง ดบ. ต่อ นอกจากนี้จับตารัฐบาลใหม่ออกนโยบายประชานิยม หากมากเกินไปอาจกระทบเสถียรภาพ
กลยุทธ์การลงทุน
มอง SET ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ เนื่องจากรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และติดตามการเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลการดำเนินงาน 2Q66 ของบริษัทจดทะเบียนไทยในกลุ่ม Real Sector ท่ามกลางการคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อที่จะชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมองตลาดยังรอจับตาตัวเลขเศรษฐกิจจีนและสหรัฐต่างๆ รวมทั้งผลการดำเนินงาน 2Q66 ที่จะออกมาซึ่งคาดมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ช้าในช่วง 2H66 กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET ยังรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ รวมทั้งจับตาการเข้าสู่ช่วงประกาศผลการดำเนินงาน 2Q66 ของบจ. ไทยและต่างประเทศ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะยังเติบโตได้ดี YoY และ QoQ เลือก ADVANC (Defensive) BEM (Defensive) GULF (ราคาต่ำกว่าก่อนเลือกตั้ง)
2) เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 มีโอกาสดีกว่าตลาดคาด เลือก AOT (เป็นไตรมาสแรกที่กลับมาเก็บ minimum guarantee) MINT (NHH ประกาศงบเป็น record high)
3) หุ้นที่งบ 2Q66 ออกมาดีแล้ว และคาดงบจะดีต่อในช่วง 3Q66 เลือก SCGP (High Season ของธุรกิจบรรจุภัณฑ์)
ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นที่คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 จะออกมาอ่อนแอ และมีโอกาสตลาดจะปรับลดประมาณการ อาทิ กลุ่มอาหาร (TU CPF GFPT BTG) และกลุ่มหลักทรัพย์ (ASP, MST) และ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญจากกำลังซื้อภาคเกษตรที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)
Daily focus
BCP ช่วงสั้นคาดได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นแรงของราคาก๊าซ ขณะที่ 2H66 คาดกำไรจากการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้น HoH เนื่องจาก market GRM เริ่มฟื้นตัว จากฤดูหนาวที่กำลังใกล้เข้ามาจะทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันทำความร้อนมากขึ้น
BBL 3Q66 และปี 2566 คาดจะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคารอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจาก credit cost ที่ลดลงมากสุด NIM ที่กว้างขึ้นพร้อมกับแนวโน้ม upside และสินเชื่อที่เติบโตอย่างยั่งยืน
ข่าวเด่น