ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ผลผลิตในอนาคตปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่หกติดต่อกัน โดยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ส.ค.ปรับลดลงจำนวน 5 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 520 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ มี.ค. 65 ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลงจำนวน 6 แท่นมาอยู่ ที่ระดับ 117 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ ก.พ. 65 ซึ่งการลดลงของการผลิตในสหรัฐฯ อาจทำให้อุปทานตึงตัวมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันได้ปรับลดลงประมาณ 2% จากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศ และทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนต่างๆ ในตลาดที่มีความเสี่ยง
ตลาดยังคงจับตาท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังไม่ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น อาจขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ และทำให้อุปสงค์น้ำมันโดยรวมลดลง อีกทั้งราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงในช่วงนี้
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากการคาดการณ์ว่าจีนจะส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น อีกทั้งอุปทานน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในเอเซีย จากการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นในปากีสถาน
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะมาเลเซีย แม้ว่าน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้น 7.39% แตะระดับ 7.52 ล้านบาร์เรล
ข่าวเด่น