ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเริ่มทรงตัวที่บริเวณ 1,890 เหรียญ และมีบางช่วงหลุดลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,885 เหรียญ ก่อนมี Technical Rebound 2 ครั้งขึ้นมาที่ระดับ 1,898 เหรียญ ด้านค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าลงอย่างมาก โดยลงมาอยู่ที่ระดับ 35.08 บาทต่อดอลลาร์ในเช้านี้ ขานรับข่าวการเมืองที่มีกำหนดโหวตเลือกนายกฯในวันนี้ ขณะที่ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีลักษณะฟื้นตัวดีขึ้น ด้านดัชนีดอลลาร์ทรงตัวอยู่แถวบริเวณ 103 จุด ซึ่งยังอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อวานนี้เปิดที่ 103.40 จุด และเคลื่อนตัวในกรอบระหว่าง 103.5-103.14 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 103.20 จุด ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันนี้ขายออก 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 889.23 ตัน สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Existing Home Sales และ Richmond Manufacturing Index คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม และติดตามถ้อยแถลงนายออสตัน กูลสบี ประธานเฟดสาขาชิคาโก
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในเชิงเทคนิคยังคงอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาลง แต่เริ่มมีลักษณะของ Technical Rebound จากภาวะของการขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้าช้อนซื้อทองคำ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,880 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,900 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,895 เหรียญ และแนวต้าน 1,915 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,910 เหรียญ และแนวต้าน 1,930 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,200 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 31,600 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q23 จะมีแนวรับที่ระดับ 31,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 31,900 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 15 - 30 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
หาจังหวะ Open Short เน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาลง บริหารความเสี่ยงในการลงทุนให้ดี
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำเทรดระยะสั้น ให้เข้าซื้อตามแนวรับ และปิดทำกำไรตามแนวต้าน เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวันและควรมี Stop Loss หากราคาหลุดแนวรับ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
ข่าวเด่น