เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
Krungthai Compass ชี้อัตราเงินเฟ้อ ส.ค. ขยายตัว 0.88% ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ประเมิน กนง. มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ช่วงที่เหลือของปี


 
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. ขยายตัว 0.88%YoY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนตามราคาน้ำมันขายปลีกที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อหมวดพลังงานพลิกกลับมาขยายตัวในรอบ 4 เดือน ขณะที่เงินเฟ้อหมวดอาหารสดทรงตัวจากราคาเนื้อสุกรที่ปรับลดลงต่อเนื่อง แต่ราคาข้าวสารปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเร่งซื้อจากความกังวลต่อปรากฎการณ์เอลนีโญ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.79%YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย
 
 
Krungthai COMPASS ประเมินว่า กนง. มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ร้อยละ 0.25 สู่ร้อยละ 2.50 ภายในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะเป็นระดับ neutral rate ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวมีแนวโน้มสูงขึ้นหลังจากผลของฐานสูงทยอยหมดลง และจากปัจจัยหนุนของปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรและราคาอาหาร รวมถึงราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. อยู่ที่ 0.88% ขยายตัวเร่งขึ้นจากราคาน้ำมันเป็นสำคัญ
 
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ส.ค. ขยายตัว 0.88%YoY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 0.38%YoY และสูงกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.61%  จากหมวดพลังงานที่พลิกกลับมาขยายตัว 2.58%YoY จากเดือน ก.ค. ที่หดตัว -3.12%YoY ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน ขณะที่ราคาหมวดอาหารสดทรงตัว 0%YoY จากเดือนก่อนที่ขยายตัว 1.37%YoY จากราคาเนื้อสุกรที่ปรับลดลงต่อเนื่อง แต่ราคาข้าวสารปรับเพิ่มขึ้น จากผู้ประกอบการเร่งซื้อเพื่อจัดเก็บในสต๊อกตามความกังวลต่อปรากฎการณ์เอลนีโญ รวมทั้งราคาไข่ไก่ ผักและผลไม้ ปรับสูงขึ้น 
 
สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.79%YoY ชะลอลงเทียบกับ 0.86%YoY ในเดือนก่อน จากราคาเครื่องประกอบอาหารที่หดตัวตามราคาน้ำมันพืชที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ราคาสินค้าบางรายการขยายตัว ได้แก่ ค่าโดยสารสาธารณะ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อุปกรณ์ซักล้างทำความสะอาด เป็นต้น ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 8 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 2.01% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.61% 
 
 
Implication:
 
• จับตาอินเดียเตรียมระงับการส่งออกน้ำตาล อาจกดดันเงินเฟ้อหมวดอาหารในระยะข้างหน้า อินเดียผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากบราซิล เตรียมระงับการส่งออกน้ำตาลซึ่งจะมีผลในเดือนตุลาคม 2566 จากภาวะภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตน้ำตาลลดลง และเพื่อลดผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อด้านอาหารภายในประเทศที่เร่งสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งภาวะภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในไทยจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตน้ำตาลของไทยในปี 2567 เช่นกัน คาดว่าราคาน้ำตาลที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอาหาร และอาจทำให้ผู้ประกอบการในกลุ่มเครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นได้
 
 
• Krungthai COMPASS ประเมินว่า กนง. มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ร้อยละ 0.25 สู่ร้อยละ 2.50 ภายในช่วงที่เหลือของปี อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มกลับมาสูงขึ้นหลังจากผลของฐานสูงทยอยหมดลง และอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง จากปรากฎการณ์เอลนีโญที่มีแนวโน้มรุนแรงซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อราคาสินค้าเกษตรและราคาอาหาร และราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ โดย Krungthai COMPASS ประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 จะเป็นระดับ neutral rate ที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในระยะยาวเป็นบวก อีกทั้งเพื่อเพิ่มความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) ภายใต้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า
 
 
 
ชนม์นิธิศ ไชยสิงห์ทอง
Krungthai COMPASS 
   

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ก.ย. 2566 เวลา : 16:42:30
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 2:27 am