เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "เป็นลบระยะสั้น แต่ยังมองมี downside จำกัด"


SET หลุดฐานบริเวณ 1545 จุด สร้างสัญญาณลบระยะสั้น และมีแนวรับถัดไปที่ 1535 และ 1530 จุด ตามลำดับ อย่างไรก็ตามในภาพรวม ยังมองดัชนีมี downside จำกัด ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1550 และ 1555 จุด ตามลำดับ หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะกลับมาเป็นสัญญาณที่ดี ประเด็นสำคัญ ติดตามรายงานเงินเฟ้อสหรัฐวันพรุ่งนี้

ประเด็นสำคัญ

• นายกฯ แถลง 4 นโยบายเร่งด่วนฟื้น ปท. หนุน GDP โตปีละ 5% เดินหน้าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบ. ใช้รูปแบบบล็อกเชนโดยไม่แตะกองทุนวายุภักดิ์ ด้าน ก. คลังยืนยันไม่กู้เพิ่มเพื่อรักษาวินัยการคลัง

• ก. คลังเตรียมปรับปรุงประกาศฯ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ เปิดรับฟังความคิดเห็นฯ 6-20 ก.ย. เพื่อเพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภคที่ขอสินเชื่อฯ โดยเฉพาะเรื่อง ดบ. และค่าธรรมเนียมต่างๆ

• THAI ระบุพร้อมรองรับการเติบโตของปริมาณ นทท. ทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีนและอินเดียที่จากนโยบายฟรีวีซ่า

• Fed ระบุผลการศึกษาผู้บริโภคสหรัฐกังวลเงินเฟ้อน้อยลง แต่กังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการจ้างงาน และความสามารถในการชำระหนี้

• ราคาก๊าซ LNG ในยุโรปปรับขึ้น 3 วันติด หลังพนักงานบางส่วนของโรงงานผลิต LNG 2 แห่งของ Chevron ในออสเตรเลียเริ่มหยุดงานประท้วงหลังจากการเจรจาล้มเหลว

• UBS เตรียมปลดพนักงานหลายร้อยตำแหน่งในเอเชีย หลังกิจกรรมของลูกค้าที่ลดลงและ ศก. จีนชะลอตัว ซึ่งมีขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Credit Suisse

• จี่หนานและชิงเต่า 2 เมืองใหญ่ทางตะวันออกของจีน ประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการซื้อและขายบ้านตั้งแต่ 11 ก.ย เพื่อเพิ่มความต้องการซื้อในภาคอสังหาฯ

• GAC จากจีนเตรียมลงทุนในไทยเพื่อเป็นฐานการผลิตรถพวงมาลัยขวาส่งออกทั่วโลก คาดตั้งโรงงานเดินเครื่องกลางปี 2567 

กลยุทธ์การลงทุน

มองบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะมี Downside จำกัด และปรับตัวอยู่ในกรอบ 1540-1600 จุด โดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ในวันที่ 11-12 ก.ย. และราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงจะช่วยหนุนกลุ่มพลังงาน อีกทั้งยังมีการเปิดตัว iPhone15 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคสำคัญที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ อาทิ เงินเฟ้อสหรัฐ (ตลาดคาดทรงตัว) และการประชุมนโยบายการเงินของ ECB (ตลาดคาดคงดอกเบี้ย) กลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “Selective Buy”   

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : มอง SET แกว่งในกรอบและมี Downside จำกัด แรงหนุนจากมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

1) หุ้นที่เหมาะลงทุนระยะกลาง แนะนำ 8 หุ้นเด่นใน 4 อุตสาหกรรม ซึ่งคาด 2H66 กำไรจะเติบโต HoH และ YoY เลือก PTT BCP KCE HANA BDMS BCH AOT ERW

2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลใหม่ ซึ่งเน้นเรื่อการกระตุ้นกำลังซื้อและหนุนท่องเที่ยว เลือก CPALL CPAXT HTC OSP   

3) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์เปิดตัว Iphone15 เลือก COM7 SYNEX

ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง  ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)

DAILY FOCUS

CPALL โมเมนตัมกำไรแกร่ง โดย 3Q66 คาดกำไรทรงตัว/เพิ่มขึ้น QoQ (สวนทางค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ลดลง QoQ) และเติบโต YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นที่โตต่อเนื่องในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ อีกทั้งรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นจาก CPAXT จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังรีไฟแนนซ์หนี้เสร็จ

BCH 3Q66 คาดกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น QoQ และทำจุดสูงสุดของปีนี้ใน 4Q66 แรงหนุนจากจำนวนผู้ป่วยคนไทยที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และรายได้จากบริการผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการปรับค่าเหมาจ่ายรายหัวผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น 10% ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 66
 
 

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ก.ย. 2566 เวลา : 12:49:55
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 2:42 am