คาด SET แกว่งในกรอบระหว่าง 1535-1555 จุด โดยนักลงทุนในตลาด รอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ด้านภาพรวมแนวโน้มราคา ยังมองดัชนีมี downside จำกัด บริเวณแนวรับ 1530-1535 จุด และรอฟื้นตัว โดยหากขึ้นทะลุผ่าน 1555 จุด จะเป็นสัญญาณที่ดี
ประเด็นสำคัญ
• วันนี้ติดตามการประชุม ครม. นัดแรก พิจารณาวาระเงินดิจิทัล ลดราคาพลังงาน พักหนี้เกษตร-กลุ่มปัญหาหนี้เรื้อรัง มาตรการวีซ่าฟรีรับ นทท. จีน 25 ก.ย. 66 - ก.พ. 67 ขณะที่นายกฯ ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บ. เร็วที่สุด แต่ภาคเอกชนค้านขอให้รอ ศก. ฟื้น
• ก. คมนาคมพร้อมผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บ. ตลอดสาย โดยจะเริ่มจากสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต 10 สถานี และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน 4 สถานี) และสายสีม่วง (ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ 16 สถานี) ภายใน 3 เดือน ประเมินใช้งบอุดหนุนส่วนต่าง 136 ลบ./ปี
• ก. ท่องเที่ยวฯ ระบุจำนวน นทท. สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.-10 ก.ย. 66 อยู่ที่ 18,530,280 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของ นทท. ต่างชาติ 775,295 ลบ.
• ส.อ.ท. รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ส.ค. 66 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 1 ปี จากการส่งออกชะลอตัวตามภาวะ ศก. โลกและกำลังซื้อของ ปท. คู่ค้าที่อ่อนแอโดยเฉพาะสหรัฐ จีน และยุโรป
• OPEC คาดอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะยังคงขยายตัวแข็งแกร่งในปี 2566 และ 2567 เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ศก. ของ ปท. ขนาดใหญ่มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่คาดไว้ โดยคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 2.25 ล้านบาร์เรล/วัน
• Apple เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ นำโดย iPhone 15 โดยไทยจัดอยู่ในกลุ่ม Tier 1 ซึ่งจะจำหน่ายวันแรก 22 ก.ย. 66
กลยุทธ์การลงทุน
มองบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะมี Downside จำกัด และปรับตัวอยู่ในกรอบ 1540-1600 จุด โดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ และราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงจะช่วยหนุนกลุ่มพลังงาน อีกทั้งยังมีการเปิดตัว iPhone15 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคสำคัญที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ อาทิ เงินเฟ้อสหรัฐ (ตลาดคาดทรงตัว) และการประชุมนโยบายการเงินของ ECB (ตลาดคาดคงดอกเบี้ย) กลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET แกว่งในกรอบและมี Downside จำกัด แรงหนุนจากมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่เหมาะลงทุนระยะกลาง แนะนำ 8 หุ้นเด่นใน 4 อุตสาหกรรม ซึ่งคาด 2H66 กำไรจะเติบโต HoH และ YoY เลือก PTT BCP KCE HANA BDMS BCH AOT ERW
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลใหม่ ซึ่งเน้นเรื่อการกระตุ้นกำลังซื้อและหนุนท่องเที่ยว เลือก CPALL CPAXT HTC OSP
3) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์เปิดตัว Iphone15 เลือก COM7 SYNEX
ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)
DAILY FOCUS
BBL 3Q66 และปี 2566 คาดจะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคารอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจาก credit cost ที่ลดลงมากสุด NIM ที่กว้างขึ้นพร้อมกับแนวโน้ม upside และสินเชื่อที่เติบโตอย่างยั่งยืน
CRC แม้ 3Q66 คาดกำไรทรงตัว/ลดลง YoY เพราะยอดขายธุรกิจค้าปลีกจะเติบโตในอัตราชะลอตัวท่ามกลางมีค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขายในระดับสูง แต่มองราคาหุ้นปรับลงสะท้อนปัจจัยลบนี้ไปพอสมควรแล้ว ขณะที่ 4Q66 คาดกำไรจะฟื้นตัวสู่ระดับที่ดีที่สุดของปีนี้
ข่าวเด่น