แม้คาด SET ได้รับ sentiment ลบ หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด สร้างความกังวลดอกเบี้ยเฟด อย่างไรก็ตามด้านสัญญาณเทคนิคให้ติดตามแนวรับบริเวณ 1530 จุด เพื่อลุ้นฟื้นตัว ด้านแนวต้านอยู่ที่ 1540-1545 จุด หากขึ้นทะลุผ่าน จะเป็นสัญญาณที่ดี ส่วนกรณีต่ำกว่า 1530 จุด จะเป็นสัญญาณลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1522 จุด
ประเด็นสำคัญ
• ครม.อนุมัติลดภาษีน้ำมันดีเซล คุมราคาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เริ่ม 20 ก.ย.นี้ เราคาดจะเป็นการลดภาษีสรรพสามิตที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 5 บาท/ลิตร ไม่กระทบผู้ประกอบการ แต่ถ้ามาตรการออกมาเพื่อลดค่าการตลาด OR กับ BCP จะได้รับผลกระทบในลำดับต้นๆ
• ครม. อนุมัติลดค่าไฟฟ้าจาก 4.45 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง เป็น 4.10 เริ่มรอบบิลเดือน ก.ย ถึงสิ้นปี 66 เผย เรามองเป็นผลลบต่อหุ้น SPP เช่น BGRIM และ GPSC เนื่องจากมีสัดส่วนการขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรมมากกว่า 25% ผลกระทบต่อ GULF ค่อนข้างจำกัดเพราะสัดส่วนจาก IPP สูง
• ครม. อนุมัติพักหนี้เกษตรกรและธุรกิขขนาดเล็ก 3 ปี เรามองผลกระทบส่วนใหญ่จะอยู่ใน ธ.ภาครัฐมากกว่า ธ.พ. ขณะที่กลุ่มสินเชื่อคาดได้ประโยชน์จากช่วยลดความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ โดยเฉพาะ MTC ที่มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ส่วน loan growth คาดชะลอลงเล็กน้อย
• ครม. อนุมัติยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน เริ่มวันที่ 25 ก.ย.66-29 ก.พ. 67 เรามองจะช่วยผลักดันภาคการท่องเที่ยวไทยและคาดมาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทยได้มากกว่ามาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม หุ้นเด่น คือ ERW และ AOT
• ThaiBMA จับตาหุ้นกู้ไฮยีลด์ครบกำหนด 3 เดือนข้างหน้า เตรียมแผนสำรอง-เตือน นลท. ป้องกันผิดนัดชำระหนี้ ศึกษาเปิดข้อมูลความเสี่ยงเพิ่ม
• เงินเฟ้อสหรัฐ ส.ค. เพิ่มมากสุดรอบ 14 เดือน จากราคาน้ำมันเบนซินปรับขึ้น แต่เพิ่มขึ้นรายปีต่ำสุดรอบ 2 ปี อาจทำให้ Fed คง ดบ. ในสัปดาห์หน้า
• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
• American Airlines ลดประมาณการ 3Q66 หลังต้นทุนเชื้อเพลิง-คชจ.สูงขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน
มองบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทยจะมี Downside จำกัด และปรับตัวอยู่ในกรอบ 1540-1600 จุด โดยมีแรงหนุนจากความคาดหวังเชิงบวกต่อการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ และราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงจะช่วยหนุนกลุ่มพลังงาน อีกทั้งยังมีการเปิดตัว iPhone15 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคสำคัญที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ อาทิ เงินเฟ้อสหรัฐ และการประชุมนโยบายการเงินของ ECB กลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : มอง SET แกว่งในกรอบและมี Downside จำกัด แรงหนุนจากมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้นที่เหมาะลงทุนระยะกลาง แนะนำ 8 หุ้นเด่นใน 4 อุตสาหกรรม ซึ่งคาด 2H66 กำไรจะเติบโต HoH และ YoY เลือก PTT BCP KCE HANA BDMS BCH AOT ERW
2) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์จากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลใหม่ ซึ่งเน้นเรื่อการกระตุ้นกำลังซื้อและหนุนท่องเที่ยว เลือก CPALL CPAXT HTC OSP
3) หุ้นเก็งกำไรที่คาดได้อานิสงส์เปิดตัว iPhone15 เลือก COM7 SYNEX
ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)
DAILY FOCUS
AOT 4QFY66-1QFY67 กำไรมีแนวโน้มเติบโตดีจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของภาคท่องเที่ยวไทย อีกทั้งล่าสุดรัฐบาลมีแผนออกมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวไทยซึ่งจะหนุนให้กำไรแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นไม่มากและยังตามหลังหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว
KCE มองน่าสนใจที่สุดในกลุ่มฯ จากเห็นสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นใน 2H66 และต่อเนื่องไปยังปี 67 ทั้งจากดีมานด์ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถยนต์ที่ฟื้นตัวจากการลดสินค้าคงคลัง ขณะที่ Valuation ยังมีส่วนลดเมื่อเทียบกับ PE mean ในอดีต
ข่าวเด่น