ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น จากความคาดหวังว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ โดย FedWatch Tool ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้ และให้น้ำหนัก 69% ที่เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมเดือนพ.ย. ขณะที่วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Building Permits คาดการณ์ว่าจะออกมาใกล้เคียงเดิม ขณะที่ Housing Starts คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิมเล็กน้อย ด้านดัชนีดอลลาร์ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงโดยเช้านี้อยู่ที่ 105.16 จุด ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาจาก 35.76 บาทต่อดอลลาร์ มาปิดที่ระดับที่ 35.67 บาทต่อดอลลาร์ในเมื่อวานนี้ ขณะที่เช้านี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 35.70 บาทต่อดอลลาร์ สำหรับราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 10 วัน โดยสามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,930 เหรียญได้ สำหรับกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 880.27 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในทางเทคนิคราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานในคลื่นที่ 2 ของ Elliott wave และมีโอกาสที่ราคาทองคำน่าจะทรงตัวหรือปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ 1,910 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,940 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,915 เหรียญ และแนวต้าน 1,945 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,930 เหรียญ และแนวต้าน 1,960 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 32,400 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,800 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series V23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 33,000 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 - 20 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน ลงซื้อขึ้นขาย ระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
รอเข้าซื้อเมื่อราคาลงมาบริเวณแนวรับและปิดทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวกลับ เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อเมื่อราคาอยู่บริเวณแนวต้านและปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวลง เน้นเทรดระยะสั้น และควรกำหนดจุด Stop Loss
ข่าวเด่น