ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงเล็กน้อย หลังนักลงทุนเริ่มเทขายทำกำไร จากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 3 วันติดต่อกันสู่ระดับสูงกว่า 95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 65
+ ตลาดยังคงกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว จากการขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบียและรัสเซียรวมกันที่ 1.3 ล้านบาร์เรล ต่อวันจนถึงสิ้นปี 2566 และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ shale oil ของสหรัฐฯ ในเดือน ต.ค. 66 ที่คาดว่าจะลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน
+ รัสเซียกำลังพิจารณาเพิ่มการเก็บภาษีการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปทุกประเภทกว่า 250 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 66 ถึง มิ.ย. 67 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ
+ หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผย ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 15 ก.ย. 66 ปรับลดลงกว่า 5.25 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์ปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของมาเลเซียมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากการกลับมาดำเนินงานของโรงกลั่นภายในประเทศ
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลคาดจะปรับลดโควต้าการส่งออกน้ำมันเตา 0.8 ล้านตัน เป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันเครื่องบิน สำหรับปีนี้ ท่ามกลางการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในเกาหลีใต้
ข่าวเด่น