ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 3% สู่ระดับสูงสุดในปี 2023 ภายหลังตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 22 ก.ย. 66 ปรับลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 416.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงราว 0.3 ล้านบาร์เรล ทำให้ตลาดเกิดความกังวลด้านอุปทานน้ำมันมากขึ้น ว่าอาจเข้าสู่สภาวะตึงตัวทั่วโลก
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อาจเพิ่มความตึงตัวให้กับตลาดอุปทานน้ำมันโลก ภายหลังสั่งการให้รัฐบาลอุดหนุนราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศให้ทรงตัว และจำกัดการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ภายหลังราคายังคงพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องจากการเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันของรัสเซียในช่วงก่อนหน้านี้
ธนาคารของจีน (People's Bank of China : PBOC) เปิดเผยหลังการประชุมของคณะกรรมการนโนบายการเงินเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 66 ว่าจะยกระดับนโยบายทางการเงินและรักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเชื่อมั่นว่า GDP ในปี 2566 จะอยู่ที่ +5.0% ตามเป้าหมายของรัฐบาลจีน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ในอินโดนีเซียมีแนวโน้มลดลงในเดือน ต.ค. 66 จากปัญหาด้านราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยอดการส่งน้ำมันในจีนยังคงมีแนวโน้มทรงตัว แม้ว่ากำลังจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดของจีน (Golden Week)
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังรัสเซียได้ออกมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันเป็นการชั่วคราวเพื่อตอบสนองปัญหาการขาดแคลนภายในประเทศ และเรื่องปัญหาด้านราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้ง อุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นภายหลังใกล้เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว
ข่าวเด่น