ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยทำจุดต่ำสุดใหม่แถวบริเวณ 1,843 เหรียญ เรียกได้ว่าราคาทองคำถูกภาวะกดดันตามแนวโน้มทิศทางขาลง จากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์และจากการที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายเท่าเดิมที่ 5.5% จนถึงกลางปี 2567 หรืออาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงปลายปีนี้ จากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐฯ ออกมาค่อนข้างดีโดยเฉพาะภาคการจ้างงานและภาคการผลิต โดยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯในวันศุกร์ ได้แก่ Core PCE Price Index m/m, Personal Spending m/m และ Chicago PMI ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Goods Trade Balance และ Revised UoM Consumer Sentiment ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ ขณะที่ในส่วนของ Prelim Wholesale Inventories m/m ออกมาใกล้เคียงจากที่คาดการณ์ ภาพรวมจะเห็นได้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี โดยเศรษฐกิจไม่ได้ถดถอยมากนัก แม้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยมาที่ระดับ 5.5% สำหรับวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯได้แก่ ISM Manufacturing PMI ซึ่งคาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ด้านค่าเงินบาทเมื่อวันศุกร์มีบางช่วงที่กลับแข็งค่าลงมา โดยเช้านี้กลับมาอ่อนค่าขึ้นที่ระดับ 36.75 บาทต่อดอลลาร์ เรียกได้ว่าค่าเงินบาททำจุดอ่อนสุดในรอบ 10 เดือน ด้านราคาทองคำต่ำสุดในรอบประมาณ 7 เดือน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องอย่างมากในสัปดาที่ผ่านมา โดยปรับตัวลงลงจากระดับ 1,910 เหรียญ ลงมาที่ 1,843 เหรียญ หรือปรับตัวลดลงประมาณ 67 เหรียญ เรียกได้ว่าเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จึงทำให้ภาพรวมราคาทองคำอยู่ในลักษณะแนวโน้มทิศทางขาลง โดยคาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,810 เหรียญ ซึ่งถือเป็นแนวรับระยะสั้นทึ่สำคัญ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,820 เหรียญ และแนวต้านอยุ่ที่ 1,860 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,850 เหรียญ และแนวต้าน 1,890 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,935 เหรียญ และแนวต้าน 1,975 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 31,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,200 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series V23 จะมีแนวรับที่ระดับ 32,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 32,400 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 15 - 30 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังแนะนำนักลงทุนหาจังหวะ Open Short ตามแนวต้าน ยังเน้นเทรดตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาลง แต่อาจต้องระวังราคาดีดตัวกลับของราคาในระยะสั้นบ้าง เนื่องจากราคาลงมาต่อเนื่อง ทำให้อาจจะมีแรงซื้อกลับเพื่อทำกำไร
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ลดหรือปิดสถานะซื้อเมื่อราคามีจังหวะดีดตัวกลับ ยังไม่แนะนำให้เปิดสถานะ เนื่องจากแนวโน้มหลักยังอยู่ในทิศทางขาลง บริหารพอร์ตและควบคุมความเสี่ยงให้ดี
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรตามกรอบทิศทางขาลง เปิดทำกไรไรตามรอบเมื่อราคาลงมาบริเวณแนวรับ และเปิดสถานะขายใหม่เมื่อราคาดีดตัวกลับไปบริเวณแนวต้าน ระวังความผันผวนของราคา
ข่าวเด่น