ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV นั้นมีการเติบโตสูงอย่างก้าวกระโดดมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดนับตั้งแต่ปี 2018 ที่ยอดขายรถยนต์ EV ทั่วโลก ทะลุ 2 ล้านคัน เป็นครั้งแรก สวนทางกับยอดขายรถยนต์สันดาปภายในที่ชะลอตัวลง และเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนล่าสุดในปี 2022 รถยนต์ EV มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 68% โดยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดด้วยยอดขายทั่วโลกในสัดส่วน10% เป็นครั้งแรก (7.8 ล้านคัน) ของตลาดรถยนต์ทั้งหมดที่ขายได้ราว 80.6 ล้านคัน นับเป็นการทำลายสถิติตั้งแต่รถยนต์ EV ได้ถือกำเนิดขึ้นมา อีกทั้งยังแปลได้ว่ายุคทองของรถยนต์ชนิดนี้มาถึงแล้ว โดยสามารถคาดการณ์ได้จากความต้องการของตลาดที่มากขึ้นเรื่อยๆ
และที่สำคัญตลาดรถยนต์ EV นี้จะเติบโตไม่ได้เลย ถ้าไม่มีการผลักดันเทคโนโลยีรถยนต์ EV ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างประเทศจีนและยุโรป และการแข่งขันของผู้ผลิตในอุตสาห กรรมยานยนต์ของแต่ละบริษัท ที่ยิ่งมากราย การพัฒนารถยนต์ประเภทนี้เพื่อครองใจลูกค้าในตลาดก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งประเทศจีนนับว่าเป็นหนึ่งตลาดสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยยอดขายรถยนต์ EV อยู่ที่ราว 19% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในปีล่าสุด อีกทั้งยังเต็มไปด้วยผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง BYD, SAIC, Ora และ Chery แต่ล่าสุดนี้ ตลาดรถยนต์ EV ในจีนและทั่วโลก กำลังจะครึกครื้นมากขึ้นไปอีก เมื่อ Xiaomi แบรนด์เทคโนโลยีสัญชาติจีนที่พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอ นิกส์อย่างสมาร์ทโฟนและ Gadget ต่างๆจนได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ล่าสุดได้กระโจนเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยข้าม Line ผลิตภัณฑ์ จากที่เล็งตลาดสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ไอที หันมาเดินหน้าผลิตรถยนต์ EV อย่างเต็มกำลัง
โดย Xiaomi ได้เริ่มการดำเนินการวิจัยและพัฒนา (Research and Development - R&D) ระยะแรกในเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ Xiaomi Pilot Technology ที่ตอนนี้มีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมาก กว่า 600 คน และยังเข้าซื้อกิจการ Shendong Technology สตาร์ทอัปเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติอีกด้วย แต่ก่อนที่จะไปถึงรถยนต์ขับขี่อัตโนมัตินั้น ในระยะแรก Xiaomi มุ่งมั่นจะมีรถยนต์ EV เป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยมีการร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์หลายรายอย่าง Brilliance Auto Group และ Chery Automobile ซึ่งตอนนี้ Xiaomi ก็ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน (NDRC) ที่เป็นผู้กำหนดแผนการผลิตและการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีน ในการผลิตรถยนต์ไปที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ โรงงานผลิตรถยนต์ EV ของ Xiaomi ได้ถูกระบุโดยรัฐบาลบริหารท้องถิ่นของปักกิ่งว่า เป็นโครงการพัฒนาอุตสาห กรรมที่มีความสำคัญอีกด้วย แต่ถึงจะผ่านด่าน NDRC ไปแล้ว Xiaomi อาจจะยังต้องปะทะกับความท้าทายเพิ่มเติม เนื่องจากต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (MIIT) ที่ต้องประเมินถึงเงื่อนไขความปลอดภัย และเทคนิคของรถยนต์และการผลิต ซึ่ง ณ ขณะนี้ Xiaomi อยู่ในขั้นตอนที่รอให้ทางการจีนอนุมัติใบอนุญาตการผลิตรถยนต์ โดยอาจจะไม่ราบรื่นมากนัก เพราะในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ทางการจีนจำกัดจำนวนใบอนุญาตการผลิตรถยนต์ EV เนื่องจากในตอนนี้มีผู้เข้ามาร่วมเล่นในอุตสาหกรรมดังกล่าวเยอะมากในจีนและมีทิศทางเริ่มอิ่มตัว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ภาครัฐได้ออกมาตรการอุดหนุนอุตสาหกรรมดังกล่าวจนกลายเป็นแห่งผลิตใหญ่ของโลกมานานหลายปี
และความท้าทายประการที่ 2 คือเรื่องของการแข่งขันในตลาดที่มีผู้เล่นอยู่มากมายหลายราย และบางบริษัทก็ล้มหายตายจากไปแล้วเนื่องจากพ่ายแพ้ในสมรภูมิของอุตสาหกรรมแห่งนี้ ทั้งปัญหาของสงครามราคาก่อนหน้าที่ส่งผลต่อกำไรของผู้ผลิต ซึ่งก็ต้องรอดูว่า Xiaomi จะงัดความแตกต่างของคุณสมบัติรถยนต์ EV ของตัวเองอย่างไรให้สามารถต่อสู้กับผู้ผลิตรถยนต์ EV ในตลาดที่ยืนรออยู่ในสนามก่อนหน้านี้แล้ว โดยทาง “เหลย จวิน” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Xiaomi กล่าวว่า Xiaomi ใช้เงินลงทุนราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐมากว่า 10 ปี เพื่อทำให้รถยนต์แบรนด์ Xiaomi สามารถออกสู่ตลาดได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งจะเป็นจริงอย่างที่คาดไว้หรือไม่ ก็คงต้องรอดูการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่วางแผนไว้ในปี 2024 ที่จะถึงนี้
ข่าวเด่น