เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ฟื้นจำกัด ปรับลงได้อยู่"


 

คาด SET ได้รับปัจจัยกดดัน หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 5% และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังไม่ยุติ กดดันดัชนีให้ปรับตัวลง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1412 และ 1406 จุด ตามลำดับ ด้านการฟื้นตัวถูกจำกัดที่แนวต้าน 1430 และ 1438 จุด

ประเด็นสำคัญ

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ตั้งแต่ ม.ค. ขณะที่ถ้อยแถลงของ ปธ. Fed ส่งสัญญาณคง ดบ. ในการประชุมครั้งถัดไป แต่เปิดทางขึ้น ดบ. ต่อในอนาคตหากจำเป็น

• ราคาน้ำมันปรับเพิ่มจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลสหรัฐระบุโอกาสถูกโจมตีของโดรนจากอิรักและซีเรียมากขึ้น

• สหรัฐยกเว้นการคว่ำบาตรน้ำมัน ก๊าซฯ และทองคำส่งออกจากเวเนซูเอล่าเป็นการชั่วคราว โดยเชื่อว่าเวเนซูเอล่าพร้อมเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างโปร่งใส

• นายกฯ กล่าวในพิธีลงนามร่วมมือการท่องเที่ยวกับจีน ณ กรุงปักกิ่งว่า รัฐบาลไทยพิจารณายกเว้นวีซ่าถาวรให้ นทท. จีน หลังยกเว้นวีซ่าชั่วคราวแล้ว พร้อมขอนายกฯ จีนยกเว้นวีซ่าให้คนไทย นอกจากนี้ทางด้านผู้ว่าการ ททท. ระบุนายกฯ เตรียมยกเว้นวีซ่าชั่วคราวให้ชาวไต้หวันและอินเดีย พร้อมยกเว้นการกรอกใบ ตม.6 สำหรับชาวมาเลเซียที่เข้าไทยด่านสะเดา

• ก. คลัง เตรียมลดภาษีน้ำมันเบนซิน ระบุพร้อมทำตามนโยบายรัฐหากต้องการให้ลดภาษีน้ำมันเบนซินเพื่อลดภาระค่าครองชีพ ปชช. พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาสใกล้ชิด

• รมช. คลังระบุขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดเงื่อนไขและแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาแจกเงินดิจิทัลให้ ปชช. คนละ 1 หมื่นบ. ได้ อาจส่งผลให้การประกาศแจกเงินดิจิทัลต้องเลื่อนจาก 1 ก.พ. 67 แต่จะพยายามทำให้แล้วเสร็จภายใน 1Q67

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวหรือรีบาวด์ได้ โดยแม้ตลาดอาจมีแรงกดดันจากภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในอิสราเอล และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่เร่งตัวขึ้นอีก ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังถ้อยแถลงประธาน FED ที่ตลาดมองจะยังคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า แต่ยังมีปัจจัยบวกจากความคาดหวังจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวม 1 ล้านล้านหยวน รวมถึงคาดยังมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาช่วยหนุนดัชนี กลยุทธ์ลงทุนจึงมองเป็น “โอกาสซื้อลงทุน”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : สัปดาห์นี้มอง SET มีโอกาสจะฟื้นตัวหรือรีบาวด์ได้บ้าง หลังปรับตัวลงแรงสะท้อนความเสี่ยงไปในระดับหนึ่งและค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่า จึงมองเป็น “โอกาสซื้อลงทุน” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไรซึ่งคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นหรือทรงตัวในระดับสูง หลังกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลางกระทบอุปทานน้ำมัน เลือก PTTEP BCP

2) หุ้น Undervalued ซึ่งราคาปรับลงมาจนเข้าเขต Oversold และยังมีพื้นฐานดี อีกทั้ง Valuation ไม่แพง (PER และ PBV 23F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เลือก CPALL TOP CPN BDMS MINT

3) หุ้นที่มี Earning Growth แข็งแรง (กำไรมีโมเมนตัมดีต่อเนื่อง) และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาหุ้นสามารถชนะตลาดได้  เลือก AMATA BBL KTB BCH KLINIQ

ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)

DAILY TOP PICKS

AOT ได้ประโยชน์จากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้น (+YoY, +QoQ) ใน 4QFY66-1QFY67 ขณะที่ช่วงสั้นมองราคาหุ้นปรับลงสะท้อนปัจจัยลบแล้ว อีกทั้งหากเทียบ YTD ราคาหุ้นยังตามหลังหุ้นอื่นๆ ในกลุ่มท่องเที่ยว  

BEM คาดกำไร 3Q66 จะปรับตัวดีขึ้น QoQ และ YoY ตามโมเมนตัมปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ทั้งปี 2566 คาดมีกำไรสุทธิที่ 3.9 พันลบ. เติบโตเด่น 60.6%YoY  
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ต.ค. 2566 เวลา : 11:38:07
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 2:28 pm