SCB CIO แนะลงทุนตราสารหนี้ระยะยาว จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะชะลอตัว เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และปรับลดลงในปีหน้า ด้านราคาตราสารหนี้ระยะยาวปรับลดลงไปมาก คาดช่วงที่Fed ใกล้ลดดอกเบี้ย หนุนราคาตราสารหนี้ระยะยาวมีโอกาสปรับขึ้น และโอกาสได้รับ capital gain มากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น เสนอ3กองทุนทางเลือก ได้แก่ KT-ARB, MUBOND-A และSCBGSIF กรณีที่เปิดบัญชีซื้อ/ขาย Omnibus Account ผ่านแอปพลิเคชั่น SCB EASY ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. 2566 – 30 พ.ย. 2566 นี้ รับฟรี Shopee e-Voucher มูลค่า 200 บาท
นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA SCB Wealth Chief Investment Officer ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย Investment Office and Product Function กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยผลการประชุมครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งสูงสุดในรอบ 22 ปี ขณะที่การประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ จะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค. 2566 โดย SCB CIO คาดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ Fed จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว เนื่องจาก Fed ยอมรับว่าความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น เมื่อเทียบกับความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ประกอบกับภาคการเงินมีความตึงตัวมากขึ้น เพียงแต่ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวลอย่างมีนัยสำคัญ โดยการคงอัตราดอกเบี้ยสูงระดับนี้ น่าจะยาวนานไปจนถึงไตรมาสที่ 3/2567 ทำให้เรามองว่า จังหวะนี้เป็นโอกาสทองสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว
“เรามองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง แต่มีโอกาสปรับลดลงในปีหน้า จะทำให้การลงทุนในตราสารหนี้มีความน่าสนใจขึ้นมาก โดยเฉพาะตราสารหนี้ระยะยาวที่อัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยรับ (yield) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และราคาได้ปรับลดลง รับข่าวความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในช่วงก่อนหน้าไปมากแล้ว และต่อไป yield ควรจะทยอยปรับตัวลดลงได้ ใน 9-12 เดือนข้างหน้า ตามแรงการคาดการณ์ว่า Fed จะหยุดขึ้นดอกเบี้ย วงจรดอกเบี้ยขาขึ้นได้จบลง ดังนั้น จึงมองเป็นโอกาสเข้าลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวที่คาดหวังได้ทั้งผลตอบแทนจาก yield และกำไรจากราคาที่ปรับขึ้นได้ (capital gain) เมื่อดอกเบี้ยเริ่มปรับลดลงในอนาคต” นายศรชัย กล่าว
ทั้งนี้ หากนักลงทุนรับความผันผวนของราคาตราสารหนี้ได้ต่ำ อาจจะพิจารณาเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อคาดหวังกระแสเงินสดรับ เพียงแต่ในอนาคตเมื่อตราสารหนี้ครบกำหนด และนำเงินไปลงทุนต่อในตราสารหนี้ระยะสั้นตัวใหม่ ก็อาจจะได้รับผลตอบแทนที่ลดลง
ข่าวเด่น