TNP เผยผลงาน 9 เดือน ปี 66 กางรายได้โตเฉียด 2,000 ล้านบาท โตขึ้น 7% จากการขยายสาขาของบริษัททำให้มีกำไรอยู่ที่ 107 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 44 สาขา เตรียมขยายเพิ่มอีก 2 สาขา หนุนเป็น 46 สาขา ในสิ้นปี 2566 สร้างโอกาสรับรายได้เพิ่มเติม คาดโค้งสุดท้ายของปีเป็นไฮซีซั่นการท่องเที่ยวภาคเหนือ ยังโตได้อีกต่อเนื่อง
เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เผยการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เดินหน้าขยายสาขา สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ สามารถเข้าถึงสินค้าอุปโภค บริโภคได้อย่างง่าย อีกทั้งยังร่วมโครงการกับภาครัฐและการจัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย สร้างการเติบโตในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
ส่งผลให้ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 1,916.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.82 ล้านบาท หรือ 7.15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการเพิ่มขึ้นของยอดขายเกิดจากการเปิดสาขาใหม่ของบริษัท โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดสาขาใหม่จำนวน 4 สาขา และในปี 2566 บริษัทได้เปิดสาขาใหม่จำนวน 2 สาขา รวมปัจจุบันบริษัทมี สาขาทั้งหมดจำนวน 44 สาขา อีกทั้งเตรียมเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา หนุนให้มี 46 สาขาในสิ้นปี 2566 ตามแผนที่วางไว้
โดยบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 320.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.92 ล้านบาท หรือ 4.88% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 16.74% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นดังกล่าวเกิดจากภาพรวมยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 107.79 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 5.59%
อย่างไรก็ดีในส่วนของผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายจำนวน 650.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 29.57 ล้านบาท คิดเป็น 4.76% แม้ว่ายอดขายสาขาเดิมในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ลดลง 2.4 % แต่ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี ทำให้มีกำไรขั้นต้นจำนวน 105.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของ ปีก่อน 1.03 ล้านบาท คิดเป็น 0.99% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 16.27% และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 33.69 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 5.15%
“โดยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ถือว่าเป็นไฮซีซั่นของภาคเหนือ ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติมาอย่างเนืองแน่น สังเกตได้จากช่วงที่ผ่านมาเริ่มกลับมาคึกคักกว่าปีก่อนๆอย่างชัดเจน เราก็คาดหวังว่าในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ก็จะเป็นปัจจัยบวกที่เข้ามากระตุ้นการเติบโตของเราด้วยเช่นกัน ทั้งจากเทศกาลปีใหม่ และในช่วงของเทศกาลวันหยุดยาว
ไม่เพียงเท่านี้ เรายังมีแผนขยายอีก 2 สาขา เพื่อรองรับการเข้าถึงของผู้บริโภคได้มากขึ้น ที่เตรียมจะเปิดเพิ่มเติมภายในสิ้นปี 2566 นี้ ซึ่ง 1 ใน 2 สาขา มีทำเลอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวคาดว่าจะเป็นสาขาไฮไลท์สร้างการเติบโตได้ในอนาคต” เภสัชกรหญิงอมร กล่าว
ข่าวเด่น