- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงความกังวลด้านอุปสงค์ในแถบเอเชียที่อ่อนแอลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 10 พ.ย. 66 ปรับเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 421.9 ล้านบาร์เรล โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานตัวเลขการกลั่นน้ำมันดิบของจีนในเดือน ต.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 63.9 ล้านตัน หรือเทียบเท่า 15.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดือน ก.ย. 66 ที่อยู่ในระดับ 15.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในภาคอุตสาหกรรมลดลง
- ราคาน้ำมันดิบยังได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.33% สู่ระดับ 104.4 สอดคล้องกับการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลให้สัญญาราคาน้ำมันดิบมีความน่าสนใจลดลง จากค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันกลุ่มเบนซินในอินโดนีเซียอาจปรับลดลงในเดือน ธ.ค. 66 หลังจากโรงกลั่นน้ำมันที่ปิดซ่อมบำรุงมีแผนกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง นอกจากนี้ ตลาดยังคงกังวลในด้านอุปสงค์ของอินเดียที่อาจลดลงหลังจากหมดช่วงเทศกาล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ในตลาดภูมิภาคเอเชียและยุโรปยังคงมีแนวโน้มอ่อนแอ ขณะที่ข้อมูลการผลิตน้ำมันดีเซลในอินเดียเดือน ก.ย. 66 ปรับตัวลดลง 5.7% MoM มาอยู่ที่ระดับ 8.9 ล้านตัน (2.2 ล้านบาร์เรล/วัน) อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลใน 9 เดือนแรกยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ข่าวเด่น