SET เคลื่อนไหวพักตัวใต้แนวต้าน 1422 จุด อย่างไรก็ตาม วันนี้ลุ้นขึ้นทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าว ด้วยปัจจัยหนุน sentiment บวก จากตลาดหุ้นสหรัฐ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1432 จุด ด้านแนวรับอยู่ที่ 1410 และ 1400 จุด ตามลำดับ ที่คาดยังเป็นจุดรองรับได้
ประเด็นสำคัญ
• ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ทะลุระดับ 77 ดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า OPEC+ จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 26 พ.ย. นี้
• หน่วยงานกำกับดูแลของจีนกำลังร่างรายชื่อบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 50 แห่ง ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินทุนหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นความพยายามครั้งล่าสุดในการบรรเทาวิกฤติอสังหาริมทรัพย์
• สภาพัฒน์รายงาน GDP 3Q66 โต 1.5% ต่ำกว่าคาดจากส่งออกยังไม่ฟื้น ปีนี้คาด GDP โต 2.5% ปีหน้าคาดโต 3.2% ส่งออกเริ่มฟื้น โดยยังไม่ประเมิน GDP จากดิจิทัลวอลเล็ต รอกฤษฎีกาให้ความเห็น
• ธปท. ระบุระบบ ธพ. มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง ขณะที่ 3Q66 สินเชื่อรวมหดตัว 0.9%YoY จากการชำระคืนหนี้ของภาคธุรกิจหลังเร่งขยายตัวต่อเนื่องเพื่อเสริมสภาพคล่องช่วงโควิด
• กทม. เตรียมจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 อัตรา 15 บ. ต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบันยังไม่เก็บค่าโดยสาร เพื่อนำรายได้บริหารจัดการโครงการ รอคมนาคมตอบหนังสือทางการ
• สมาคม บลจ. ระบุพร้อมออกกองทุนใหม่ ภายใต้เงื่อนไขกองทุน TESG และยื่นขออนุมัติกับทาง ก.ล.ต. ภายใน 2 สัปดาห์นี้ ให้ทันเริ่มขาย 1 ธ.ค.นี้ คาดดึงเม็ดเงินลงทุน นลท. ตามเป้าคลัง 1 หมื่นลบ.
• ก.ล.ต. ส่งหนังสือถึง ตลท. เพิ่มการคุมชอร์ตเซล-โปรแกรมเทรด คาดหวังบอร์ด ตลท. ดำเนินการแก้ไขให้เหมาะสม เตรียมเข้าตรวจสอบธุรกรรม Naked Short ของ ตลท. สร้างความเชื่อมั่น
กลยุทธ์การลงทุน
เรามอง SET จะยังคงมีโมเมนตัมฟื้นตัวได้ต่อ เนื่องจากคาดมีความคาดหวังเชิงบวกต่อเม็ดเงินการลงทุนในกองทุน TESG ที่จะเข้ามาราว 1 หมื่นลบ. ใน ธ.ค. นี้ อีกทั้งตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐคาดยังแข็งแกร่ง แม้จะมีสัญญาณชะลอตัวลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมอง SET ยังมีโมเมนตัมฟื้นตัวต่อเนื่องได้ ภายใต้ Upside ที่จำกัด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG เพื่อกระตุ้นการลงทุนใน ตลท. ระยะยาว ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating “AAA” หรือ “AA” (II) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO
2) หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดโมเมนตัมกำไร 4Q66 จะยังเติบโต YoY และเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี เลือก ERW AOT AP
ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)
DAILY TOP PICKS
GULF มองเป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA” และเรายังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่ง โดย 4Q66 คาดกำไรจะเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากโรงไฟฟ้า IPP (GPD) อีก 1 หน่วยเริ่มดำเนินการแล้วในเดือน ต.ค. รวมทั้งจะมีกำไรจาก Jackson Generation เพิ่มขึ้นด้วย
KCE มองผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดย 4Q66 คาดกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่อง จากสต๊อกของลูกค้าที่ยังค่อนข้างต่ำทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง (คาดรายได้ยังเติบโตได้ต่ออีก 3-4%QoQ แม้จะเป็น Low Season) ขณะที่ต้นทุนราคาทองแดงยังอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งค่าไฟฟ้าคาดจะลดลง
ข่าวเด่น