คาด SET แม้ชะลอตัวได้ หลังรายงานประชุมเฟดชี้ว่ายังจำเป็นในการคงดอกเบี้ยระดับสูงจนกว่าจะเห็นการชะลอตัวที่ชัดเจนของเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ด้านแนวโน้มราคา ติดตามแนวรับ 1418 และ 1410 จฺด ตามลำดับ หากไม่ต่ำกว่า ยังเป็นสัญญาณที่ดีต่อการปรับขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1430 และ 1437 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงภายใต้มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของไทย โดยกำหนดให้ค่าซื้อกองทุน TESG ในอัตราไม่เกิน 30% ของเงินได้เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 1 แสนบาทเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ โดยมีผลตั้งแต่ 21 พ.ย. 2566 - 31 ธ.ค. 2575
• นายกฯ สั่งการให้ รมว.แรงงาน นำเรื่องการพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
• ตลท. เพิ่มการตรวจสอบ Short Sell เตรียมตั้งคณะทำงานพิเศษเชิญผู้แทนจาก NASDAQ และตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ (KRX) เข้าร่วม และสั่งการโบรกเกอร์ส่งข้อมูลลูกค้าขายชอร์ตภายใน 15 วัน
• รายงานการประชุม Fed 31 ต.ค.-1 พ.ย. ที่ผ่านมาระบุว่า คกก. Fed จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง และอาจปรับขึ้น ดบ. หากภารกิจการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
• นลท. จับตาสถานการณ์น้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก รวมทั้งการรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันของสหรัฐอย่างเป็นทางการจาก EIA ในวันนี้ ขณะที่ API รายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่ม 9.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.79 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล
• ยอดส่งออก ต.ค. ของเกาหลีใต้ +5.1%YoY เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน หนุนจากการส่งออกรถยนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมชิป
กลยุทธ์การลงทุน
เรามอง SET จะยังคงมีโมเมนตัมฟื้นตัวได้ต่อ เนื่องจากคาดมีความคาดหวังเชิงบวกต่อเม็ดเงินการลงทุนในกองทุน TESG ที่จะเข้ามาราว 1 หมื่นลบ. ใน ธ.ค. นี้ อีกทั้งตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐคาดยังแข็งแกร่ง แม้จะมีสัญญาณชะลอตัวลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมอง SET ยังมีโมเมนตัมฟื้นตัวต่อเนื่องได้ ภายใต้ Upside ที่จำกัด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG เพื่อกระตุ้นการลงทุนใน ตลท. ระยะยาว ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating “AAA” หรือ “AA” (II) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO
2) หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดโมเมนตัมกำไร 4Q66 จะยังเติบโต YoY และเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี เลือก ERW AOT AP
ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)
DAILY TOP PICKS
CPAXT คาดยอดขาย 4Q66TD เติบโตสูงกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มฯ คาดกำไร 4Q66 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ทั้งยังมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น จากเป็นหุ้น SETESG Index ที่น่าสนใจ ได้ Rating “AAA” และการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ
BDMS มองเป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA” ขณะที่ 4Q66 คาดกำไรปกติโต YoY ส่วนทั้งปี 2566 กำไรปกติโต 12%YoY และโต 8%YoY ในปี 2567 จากบริการผู้ป่วยต่างชาติที่เติบโตมากขึ้น รายได้จากศูนย์ความเป็นเลิศที่เพิ่มขึ้น และการใช้ประโยชน์สินทรัพย์ได้ดีขึ้น
ข่าวเด่น