SET ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวนัก แต่มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่จากปัจจัยลบเฉพาะตัว กดดันดัชนีลงมาแถว 1400 จุด ซึ่งใช้เป็นจุดติดตาม หากต่ำกว่า วันนี้จะเป็นสัญญาณลบต่อ และมีแนวรับถัดไปที่ 1390 จุด ด้านกรอบบนมีแนวต้าน 1415 จุด หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะกลับมาเป็นสัญญาณบวก
ประเด็นสำคัญ
• ECB เปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 25-26 ต.ค.บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนลดลงตามคาด แต่ผู้กำหนดนโยบายเห็นพ้องกันที่ ECB อาจจะยังคงต้องพิจารณาทางเลือกในการปรับขึ้น ดบ. อีก
• ท่อส่งน้ำมันใต้น้ำที่รั่วไหลของบริษัท Third Coast Infrastructure ส่งผลให้ต้องหยุดการผลิตน้ำมันรายวันชั่วคราวประมาณ 61,165 บาร์เรลจากผู้ผลิตอย่างน้อย 6 ราย ซึ่งคิดเป็นประมาณ 3% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโก
• WHO ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลของโรคทางเดินหายใจที่พบว่ากำลังระบาดหนักทางภาคเหนือของ ปท. ตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 หลังพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีอาการคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ ร่วมกับอาการติดเชื้อทางเดินหายใจ
• อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่น ต.ค. 66 เพิ่มขึ้น 2.9%YoY โดยเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน
• ส.อ.ท. รายงานยอดส่งออกรถยนต์ ต.ค. 66 ที่ 105,726 คัน เพิ่มขึ้น 12.20% หนุนจากตลาดออสเตรเลีย ตอ. กลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ-กลาง-ใต้ที่เติบโต และคาดปีนี้การส่งออกรถยนต์จะอยู่ที่ 1.1 ล้านคัน และมีมูลค่าการส่งออกรวมอยู่ที่ราว 1 ล้านลบ.
• ม.หอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่าย ปชช. ช่วงวันลอยกระทง คาดมีเงินสะพัดแตะ 1 หมื่นลบ. สูงสุดในรอบ 8 ปีนับจากปี 2559 และมีอัตราการขยายตัว 3.3% เมื่อเทียบกับปี 65
กลยุทธ์การลงทุน
เรามอง SET จะยังคงมีโมเมนตัมฟื้นตัวได้ต่อ เนื่องจากคาดมีความคาดหวังเชิงบวกต่อเม็ดเงินการลงทุนในกองทุน TESG ที่จะเข้ามาราว 1 หมื่นลบ. ใน ธ.ค. นี้ อีกทั้งตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐคาดยังแข็งแกร่ง แม้จะมีสัญญาณชะลอตัวลง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมอง SET ยังมีโมเมนตัมฟื้นตัวต่อเนื่องได้ ภายใต้ Upside ที่จำกัด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG เพื่อกระตุ้นการลงทุนใน ตลท. ระยะยาว ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating “AAA” หรือ “AA” (II) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO
2) หุ้น Earnings Play ซึ่งคาดโมเมนตัมกำไร 4Q66 จะยังเติบโต YoY และเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี เลือก ERW AOT AP
ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)
DAILY TOP PICKS
OR เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA” ขณะที่ราคาหุ้นปรับลง 15.6%YTD ซึ่งมองตลาดกังวลมาตรการคุมราคาน้ำมันในประเทศมากไป ทั้งนี้ 4Q66 คาดกำไรปกติจะได้แรงหนุนจากเป็นไฮซีซั่นของการเดินทาง หนุนปี 2566 คาดกำไรสุทธิ 1.36 หมื่นลบ. (+31%YoY)
ADVANC เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AAA” แม้ 4Q66 คาดกำไรปกติลดลง QoQ จากไฮซีซั่นของค่าใช้จ่ายการตลาด แต่เมื่อเทียบ YoY กำไรปกติน่าจะปรับขึ้นต่อจากรายได้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ทั้งยังมีประเด็นบวกเล็กน้อยจากราคาซื้อ TTTBB ที่ลดลง
ข่าวเด่น