ในการประชุมกนง. วันที่ 29 พ.ย. ที่จะถึงนี้ คาดกนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงอย่างมาก ขณะที่ เศรษฐกิจไทยยังทยอยฟื้นตัวแม้เป็นไปในลักษณะเปราะบางสะท้อนผ่านตัวเลข GDP ในไตรมาส 3/2566 ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด
ขณะที่ เมื่อมองไปในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า กนง. มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ไปตลอดทั้งปี 2567 หากเศรษฐกิจไทยในปีหน้าฟื้นตัวต่อเนื่องและขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าปี 2566 โดยทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2567 มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ นอกจากนี้ ภาคการส่งออกของไทยในปีหน้าก็คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ในแดนบวก โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยฐาน อีกทั้ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2567 ก็คงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนการบริโภคภายในประเทศให้ยังขยายตัวได้
อีกทั้ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเงินเฟ้อไทยเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังทรงตัวอยู่ในกรอบเป้าหมายของกนง. ที่ 1-3% ต่อไปในปี 2567 โดยแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยในปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก แต่ในระยะข้างหน้ายังคงมีความเสี่ยงที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกอาจเพิ่มสูงขึ้นซึ่งคงจะก่อให้เกิดความท้าทายต่อการดำเนินมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพของภาครัฐโดยเฉพาะการลดค่าพลังงานในระยะข้างหน้า รวมถึงคงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของไทยมีโอกาสที่อาจปรับเพิ่มสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ จากการส่งสัญญาณของกนง. ในช่วงก่อนหน้านี้ คาดว่ากนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงต่อเนื่องเพื่อรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงิน (Policy Space) ในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มจะคงดอกเบี้ยสูงยาวนานขึ้น (High for longer) ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่งกว่าคาด
ข่าวเด่น