สาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิตของหญิงไทย คือมะเร็งเต้านม แม้ว่ามะเร็งเต้านมจะเป็นโรคที่รู้เร็วรักษาได้ แต่หญิงไทยจำนวนมาก ยังขาดความรู้ความเข้าใจในสาเหตุของโรคและการดูแลสุขภาพเต้านมเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่เร่งเร้าการเกิดมะเร็งเต้านม ส่งผลให้สถิติการเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวยังคงเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความห่วงใยและใส่ใจในสุขภาพสาวไทยมาโดยตลอดจึงยังคงสานต่อความมุ่งมั่นรณรงค์ให้หญิงไทยโดยเฉพาะกลุ่มแม่บ้านและสตรีสูงอายุที่อยู่อาศัยในชุมชนต่างๆ ได้ ตระหนัก และมีความรู้ความเข้าใจ รวมถึงเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพเต้านมเพื่อให้ปลอดภัยจากมะเร็งร้าย ภายใต้โครงการ “วาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม” ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 24 ปี
สำหรับปี 2566 วาโก้ ได้จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “วาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม” ในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่
1. สนับสนุนการตรวจแมมโมแกรมใน 9 โรงพยาบาลๆ ละ 30 คน โดยมีทั้งหญิงไทยที่ตรวจคลำพบก้อนบริเวณเต้านมจากการร่วมกิจกรรมที่วาโก้จัดขึ้น และหญิงไทยที่ตรวจคัดกรองพบก้อนและมีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ
2. จัดทำหมวกเพื่อมอบให้กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวด้วยเคมีบำบัด โดยมอบผ่านตัวแทนโรงพยาบาล จำนวน 9 แห่ง โรงพยาบาลละ 300 ใบ รวมเป็นมูลค่าเงินของการสนับสนุนโรงพยาบาลละ 100,000 บาท
3. จัดกิจกรรมตรวจเต้านมให้ผู้หญิงในชุมชนย่านสาทร จำนวน 120 คน พร้อมบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม สอนวิธีการดูแลตนเองให้ห่างไกลจากมะเร็งเต้านม พร้อมสาธิตการตรวจหาความผิดปกติของเต้านมด้วยตนเอง โดยทีมแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ พร้อมฝึกปฏิบัติการตรวจเต้านมด้วยตนเอง และตรวจคัดกรองเต้านมโดยพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ
4. บริจาคเงินให้มูลนิธิกาญจนบารมี วงเงิน จำนวน 200,000 บาท และบริจาคเงินให้แก่ชมรมมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย จำนวน 100,000 บาท เพื่อใช้สำหรับดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ยากไร้
นางนงลักษณ์ เตชะบุญเอนก กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วาโก้รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่มีบทบาทสำคัญรณรงค์ให้หญิงไทยตระหนัก และเห็นความสำคัญของการดูแลและป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากมะเร็งเต้านม ผ่านการผสานความร่วมมือกับสำนักงานเขตพื้นที่ต่างๆ และโรงพยาบาลในพื้นที่จัดกิจกรรมให้ความรู้และบริการคัดกรองมะเร็งเต้านมให้กับคนในชุมชนต่างๆ มาต่อเนื่องหลายปี โดยในแต่ละปีที่ผ่านมาได้ช่วยตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมให้หญิงไทยแล้วกว่า 17,000 คน รวมถึงการที่ วาโก้ เป็นแกนหลักขับเคลื่อนให้การสนับสนุนด้านการเงิน และส่งต่อกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมได้ลุกขึ้นสู้กับโรคร้ายที่คร่าชีวิตหญิงไทย
มะเร็งเต้านม จัดเป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงทุกคนจำเป็นต้องใส่ใจและระวัง โดยเฉพาะคนที่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคนี้จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น จากสถิติพบว่าในผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม 15% ตลอดชีวิต โดยผู้หญิง 8 คน จะพบว่าเป็น 1 คน แต่ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองที่ทำให้พบได้ตั้งแต่ระยะแรกของการเป็นโรคนี้ ทำให้การรักษาทำได้ง่ายกว่า และหลายรายสามารถรักษาให้หายขาดได้ จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ
สำหรับอาการผิดปกติที่เป็นข้อบ่งชี้ว่าอาจจะเป็นมะเร็งเต้านม มีหลายอาการ ได้แก่ 1) รู้สึกผิวหนาขึ้น แข็งขึ้น มีจุดบุ๋ม มีสะเก็ดตรงหัวนมที่ดูผิดปกติ อาจรู้สึกบวมหรือร้อนตรงหัวนม 2) มีน้ำนมไหลออกมา โดยที่ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ 3) เต้านมมีการเปลี่ยนแปลงไป มีอาการบวมโตขึ้นทำให้เต้านมมีขนาดเปลี่ยนแปลงอย่างผิดสังเกต 4) ผิวดูเหมือนผิวส้ม เพราะมะเร็งกินมาบริเวณผิวทำให้ทางเดินน้ำเหลืองเสียไป 5) คลำพบก้อนบริเวณเต้านมและพื้นที่ใกล้เคียง 6) เกิดการตึงรั้งของหัวนม ทำให้หัวนมบุ๋มลงไป 7) มีผื่นแดงบริเวณรอบๆ 8) มีเลือดหรือของเหลวไหลออกมา ทั้งนี้ การตรวจคัดกรองที่ดีจะทำให้พบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก้อนที่พบจะมีขนาดเล็กกว่า ทำให้การรักษาทำได้ง่ายกว่า และยังช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึง 25-30%
มะเร็งเต้านม มักพบในคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป แต่คนที่อายุน้อยกว่านั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเป็น ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ และความเสี่ยงจากประวัติของคนในครอบครัวอีกด้วย เช่น การปล่อยให้น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือการรับฮอร์โมนเสริม หรือได้ฮอร์โมนมากผิดปกติ คนที่มีประจำเดือนมาเร็วหรือหมดช้าก็มีความเสี่ยงมากด้วยเช่นกัน รวมถึงคนรูปร่างเจ้าเนื้อ เต้านมมีขนาดใหญ่ ก็มีความเสี่ยงเพราะพื้นผิวที่มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมีมากกว่าคนรูปร่างเล็กสมส่วนหรือเต้านมเล็กกว่า และเพื่อที่จะห่างไกลจากมะเร็งเต้านม หญิงไทยควรเริ่มการตรวจคัดกรองตั้งแต่อายุ 35 ปีขึ้นไป สำหรับหญิงไทยที่อายุยังน้อย ปัจจัยเสี่ยงต่ำ เมื่อรับการตรวจคัดกรองครั้งแรก แพทย์อาจลงความเห็นให้รับการตรวจคัดกรองทุก 2 หรือ 3 ปี ได้ แต่สำหรับหญิงไทยอายุ 45 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์เป็นประจำทุกปี และทุก 6 เดือนสำหรับคนที่มีปัจจัยเสี่ยงดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
แต่เนื่องจากการตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ เป็นการตรวจด้วยเครื่องรังสีและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หากตรวจบ่อยอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายผู้รับการตรวจได้ ดังนั้น หญิงไทยทุกคนควรตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน โดยตรวจหลังมีรอบเดือน และควรตรวจตอนอาบน้ำหรือตอนนอน เพื่อที่เต้านมจะไม่ตึง หากคลำพบเจอก้อนผิดปกติ ควรติดต่อแพทย์เพื่อตรวจซ้ำด้วยการทำแมมโมแกรม ทั้งนี้ แนวทางการวินิจฉัยคือ หากคลำพบก้อน จะต้องตรวจแมมโมแกรม หากผลการตรวจแมมโมแกรมยังยืนยันว่ามีการพบก้อนเนื้อ จะมีการเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจเพิ่มเติม หากพบร่องรอยของโรคจะมีการวางแผนการรักษา โดยขั้นตอนการรักษา จะขึ้นอยู่กับระยะที่เจอ หลักๆ คือการคว้านผ่าออก ส่วนจะมีวิธีการรักษาแบบอื่นควบคู่ไปด้วยหรือไม่ อย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทีมแพทย์ที่ทำการรักษา
โครงการ “วาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม” เป็นโครงการที่วาโก้จัดตั้งขึ้นโดยได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวไม่เพียงวางเป้าหมายเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมและวิธีการดูแลตนเองให้ห่างไกลจากมะเร็งเต้านม หรือการสอนตรวจหาความผิดปกติที่เต้านมด้วยตนเอง เพื่อให้สามารถตรวจรักษาได้ทันท่วงทีเท่านั้น แต่โครงการนี้ยังครอบคลุมไปถึงการสนับสนุนด้านการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านม และการให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวจากมะเร็งเต้านมด้วย ทั้งนี้ วาโก้มุ่งหวังว่า โครงการ “วาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม” จะช่วยให้สถิติของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมในภาพรวมจะลดน้อยลงเรื่อยๆ เพื่อให้หญิงไทยทุกคนได้ใช้ชีวิตอิสระอย่างมีความสุข
ข่าวเด่น