เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "หากต่ำกว่า 1370 จุด สร้าง downside"


 

SET ลงมาใกล้แนวรับสำคัญบริเวณ 1370 จุด ซึ่งเป็นจุดรองรับดัชนีได้ในสัปดาห์ก่อน ทำให้หากต่ำกว่า จะสร้างสัญญาณลบต่อการเปิดด้าน downside และดัชนีมีโอกาสทำจุดต่ำใหม่อีกครั้ง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1360 จุด ด้านกรอบบนยังถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1380 และ 1390 จุด ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญ

• ส.อ.ท. รายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม พ.ย. 66 อยู่ที่ระดับ 90.9 เพิ่มขึ้นจากระดับ 88.4 ใน ต.ค. 66 โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หนุนจากท่องเที่ยว-ลดค่าครองชีพ

• สรท. คาดการส่งออกปีนี้หดตัว 1.5-1% ปัจจัยลบจาก ศก. ทั่วโลกยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว ภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ ดบ. ทั่วโลกยังคงสูง แต่คาดปีหน้ามีโอกาสจะกลับมาเติบโตได้ประมาณ 1-2%

• ก. แรงงาน จะกลับไปพิจารณาการคิดปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใหม่ คาดนำเสนอ ครม. ภายใน 25 ธ.ค. เพื่อให้ประกาศใช้ทัน 1 ม.ค. 2567

• นายกฯ ประกาศจัดการหนี้ทั้งระบบ 16 ล้านลบ. โดยแบ่งลูกหนี้ 4 กลุ่มตามสภาพหนี้ พร้อมโอนหนี้กลุ่มเรื้อรังไป AMC 3 ล้านราย ด้าน ก. คลังเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มและมาตรการช่วยลูกหนี้ชั้นดีเข้า ครม. ภายใน ธ.ค. นี้

• ดัชนี CPI ทั่วไป พ.ย. ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.1%YoY สอดคล้องกับตลาดคาด แต่ปรับขึ้น 0.1%MoM สวนทางตลาดคาดจะไม่เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. ทำให้ นลท. ลดน้ำหนักคาดการณ์ที่ว่า Fed จะลด ดบ. ในเดือน มี.ค. 67 โดยเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นในเดือน พ.ค. 67

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ BRENT ปรับตัวลงราว 3.7%DoD แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด และอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐ

กลยุทธ์การลงทุน

เรามองช่วงสั้นตลาดหุ้นโลกอาจมีความผันผวนเพิ่มขึ้น จากนโยบายการเงินที่ไม่ตึงตัวไปกว่าเดิม (ดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดแล้ว โดยสัปดาห์นี้การประชุมนโยบายการเงินของ FED, BoE และ ECB ตลาดคาดจะมีมติคงดอกเบี้ย) ซึ่งหักล้างกับตัวเลขเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวลง ดังนั้นจึงมอง SET จะอยู่ในบรรยากาศที่เน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว และมีโอกาสได้รับเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG ที่กำลังจะทยอยเข้ามาในเดือน ธ.ค. นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุน

Weekly Portfolio : SET อยู่ในบรรยากาศที่เน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว และมีโอกาสได้รับเม็เงินลงทุนในกองทุน TESG ที่กำลังจะทยอยเข้ามาในเดือน ธ.ค. นี้เป็นหลัก กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ดังนี้

1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating “AAA” หรือ “AA” และ (II) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO ขณะที่หุ้น ESG Rating “A” ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงแรงมากในช่วงที่ผ่านมา แนะนำ AOT

2) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่ได้ ESG Rating “AAA” และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET YTD อีกทั้งผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง และคาดให้ Div. Yield มากกว่า 5% ต่อปี เลือก PTT KTB

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำเริ่มลงทุนแบบ Dollar-Cost-Average (DCA) เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมากและราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Rating ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง

ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำซึ่งคาดจะมีการเสนอ ครม. พิจารณาภายในวันที่ 25 ธ.ค. นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA) ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง  ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

DAILY TOP PICKS

OR เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA” ขณะที่ราคาหุ้นปรับลง 16%YTD ซึ่งมองตลาดกังวลมาตรการคุมราคาน้ำมันในประเทศมากไป ทั้งนี้ 4Q66 คาดกำไรปกติจะได้แรงหนุนจากเป็นไฮซีซั่นของการเดินทาง หนุนปี 2566 คาดกำไรสุทธิ 1.36 หมื่นลบ. (+31%YoY)

KCE มองผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดย 4Q66 คาดกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่อง จากสต๊อกของลูกค้าที่ยังค่อนข้างต่ำทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง (คาดรายได้ยังเติบโตได้ต่ออีก 3-4%QoQ แม้จะเป็น Low Season) ขณะที่ต้นทุนราคาทองแดงยังอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งค่าไฟฟ้าคาดจะลดลง
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ธ.ค. 2566 เวลา : 13:42:49
27-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 27, 2024, 3:34 am