หุ้นทอง
ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์กองทุนรวมอีทีเอฟให้มีความหลากหลายมากขึ้น



สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) หรือ ETF ให้เทียบเคียงกับสากล เพื่อให้กองทุนรวมอีทีเอฟ มีความหลากหลายและรองรับความต้องการของผู้ลงทุน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2566

ก.ล.ต. มีเป้าหมายในการส่งเสริมให้ผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี โดยสนับสนุนให้ประชาชน ใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งสะสมความมั่งคั่งได้อย่างเหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือก การลงทุนให้กับผู้ลงทุนและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ก.ล.ต. จึงได้ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการและร่างประกาศในการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกองทุนรวมอีทีเอฟ ซึ่งแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 โดยผู้แสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการและร่างประกาศ ตามที่ ก.ล.ต. เสนอ

ก.ล.ต. จึงออกประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับ กองทุนรวมอีทีเอฟ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

(1) เพิ่มให้กองทุนรวมอีทีเอฟ สามารถลงทุนโดยใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการในลักษณะเชิงรุกได้ เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนที่สูงกว่า benchmark (active ETF)

(2) ปรับปรุงแนวทางการพิจารณาของดัชนีอ้างอิงให้มีความชัดเจนและไม่เป็นอุปสรรคในทางปฏิบัติ ซึ่งการพิจารณาดัชนีอ้างอิงจะนำมาใช้บังคับกองทุนรวมทุกประเภทที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี เช่น กองทุนรวมอีทีเอฟที่อ้างอิงดัชนี (index fund) หรือกองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนรวมทุกประเภทที่มีนโยบายสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนี เป็นต้น

(3) ปรับปรุงให้กองทุนรวมอีทีเอฟ สามารถลงทุนในทรัพย์สินที่กองทุนรวมทั่วไปสามารถลงทุนได้ โดย บลจ. มีหน้าที่ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและสภาพคล่องของทรัพย์สินที่ลงทุน

(4) ปรับปรุงการเปิดเผยหลักทรัพย์ที่กองทุนรวมลงทุนหรือมีไว้ (portfolio holding) โดยให้เปิดเผยข้อมูลรายวันต่อผู้ลงทุนผ่านช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย ยกเว้นกรณี active ETF ซึ่งอาจพิจารณาตามความเหมาะสมของทรัพย์สินที่ลงทุน แต่จะต้องเปิดเผยข้อมูล portfolio holding รายไตรมาสเป็นอย่างน้อย

(5) ปรับปรุงการพิจารณาดัชนีอ้างอิง กลยุทธ์การลงทุน และการเปิดเผยข้อมูลของ กองทุนรวมอีทีเอฟ ต่างประเทศ ที่นำมาเสนอขายในประเทศให้สอดคล้องกับกองทุนรวมอีทีเอฟที่จัดตั้งในไทย

ทั้งนี้ ประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป และสำหรับกองทุนรวมอีทีเอฟที่จัดตั้งก่อนวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ ต้องเปิดเผยข้อมูลตามหลักเกณฑ์ใหม่ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ

หมายเหตุ:

ประกาศที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 ฉบับ และแบบที่จัดไว้บนเว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ดังนี้

(1) ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 42/2566 เรื่อง การลงทุนของกองทุน (ฉบับที่ 26) ลงวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566 (https://publish.sec.or.th/nrs/9938s.pdf) และภาคผนวก 1 (https://publish.sec.or.th/nrs/9935s.pdf) ภาคผนวก 2 (https://publish.sec.or.th/nrs/9936s.pdf) และภาคผนวก 3 (https://publish.sec.or.th/nrs/9937s.pdf) แนบท้ายประกาศนี้

(2) ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 43/2566 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสนอขายหน่วยของโครงการจัดการลงทุนต่างประเทศ (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566 (https://publish.sec.or.th/nrs/9939s.pdf)

(3) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สน. 29/2566 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป กองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนที่มิใช่รายย่อย และกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนประเภทสถาบัน (ฉบับที่ 7) ลงวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566 (https://publish.sec.or.th/nrs/9981s.pdf) และภาคผนวก 9 (https://publish.sec.or.th/nrs/9934s.pdf) แนบท้ายประกาศนี้

(4) แบบ 35-foreign กองทุนรวมอีทีเอฟ จัดไว้บนเว็บไซต์ของสำนักงาน ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 4/2561 เรื่อง ข้อกำหนดเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหน่วยของโครงการจัดการลงทุนต่างประเทศ ลงวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 ธ.ค. 2566 เวลา : 16:09:10
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 12:53 pm