คาด SET กลับมาอ่อนตัว ด้วย sentiment ลบ หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร และเมื่อวาน ดัชนียังดูไม่ผ่าน 1400 จุด สร้างสัญญาณลบทางเทคนิค ด้านการอ่อนตัวมีแนวรับที่ 1390 และ 1380 จุด ตามลำดับ ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1400 และ 1410 จุด ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญ
• ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ธ.ค. โดย CB ปรับขึ้นสู่ระดับ 110.7 สูงกว่าคาดและสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ค. ขณะที่ยอดขายบ้านมือสอง พ.ย. ของสหรัฐ +0.8%MoM สู่ 3.82 ล้านยูนิต สูงกว่าคาด
• EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล สวนทางที่คาดว่าจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น-ฮีตติ้งออยล์-น้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล
• ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษอยู่ที่ 3.9% ในเดือน พ.ย. ลดลงแรงจากระดับ 4.6% ในเดือน ต.ค.
• ส.อ.ท. รายงานยอดส่งออกรถยนต์เดือน พ.ย. +13.2% สู่ 99,609 คัน แต่ลดลงเทียบกับเดือน ต.ค. หนุนรอบ 11M66 เพิ่มขึ้น 15.6% YoY เป็น 1,027,234 คัน ด้วยมูลค่าส่งออก 8.88 แสนลบ. (11M66) เพิ่มขึ้น 10.3% YoY
• AREA เปิดเผยผลสำรวจเดือน พ.ย. ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ว่า มีเปิดโครงการใหม่ 60 โครงการ มากสุดในรอบปีนี้ แต่จำนวนหน่วยขายและมูลค่าโครงการน้อยกว่าเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา
• ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกคำร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการของ NT โดย ADVANC ไม่มีหน้าที่ต้องชำระผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มเติมให้แก่ NT ทั้งนี้ NT มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นตลาดหุ้นโลกมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้บ้าง จากมุมมอง Fed ที่ Dovish มากขึ้น (ดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุด และ Dot Plot บ่งชี้ดอกเบี้ยจะลดลง 75 bps มากกว่ารอบก่อนที่ 50 bps ขณะที่ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโต 1.4% ในปี 2567) และอาจเริ่มเห็นการเปลี่ยนกลุ่มไปยังกลุ่มที่ยังปรับตัวขึ้นช้ากว่า ซึ่งอาจจะส่งผลบวกมายังตลาดหุ้นไทย อีกทั้งตลาดหุ้นไทยมีโอกาสได้รับเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน TESG และ RMF ที่กำลังจะทยอยเข้ามาในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : SET อยู่ในบรรยากาศที่เน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว และมีโอกาสได้รับเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG ที่กำลังจะทยอยเข้ามาในเดือน ธ.ค. นี้เป็นหลัก กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating ตั้งแต่ “A”-“AAA” และราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก OR HMPRO AOT หรือ (II) ได้ ESG Rating “AAA” และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET YTD อีกทั้งผลดำเนินงานแข็งแกร่ง และคาดให้ Div. Yield สูงกว่าปีละ 5% เลือก PTT KTB
2) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนแบบ Dollar-Cost-Average (DCA) หลัง SET ปรับลงจนความเสี่ยงลดลงไปมากและราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Rating ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง
3) 10 Top Picks in Yearbook 2024 ซึ่งเน้นหุ้นที่คาดเติบโตได้ดี อีกทั้งหวังได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนใหม่ ได้แก่ AMATA BBL BEM BDMS CPALL CRC GULF OR SCC SCGP
ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำซึ่งคาดจะมีการเสนอ ครม. พิจารณาภายในวันท่ 25 ธ.ค. นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA) ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)
Special Report : 1) Yearbook 2024 ซึ่งมาด้วยแนวคิด “A Year of Value Investing” เพื่อสื่อว่าตลาดหุ้นไทยขณะนี้มีหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าอยู่มาก เป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว พร้อม 10 หุ้น Top Picks 2024 ที่คัดสรรมาให้
2) หุ้นน่าสนใจช่วงผลตอบแทนพันธบัตรลดลง กลุ่ม Long Duration - พาณิชย์ (ต้นทุนทางการเงินลดลง) การแพทย์ (WACC ต่ำลง) และสาธารณูปโภค (ต้นทุนการเงินและ WACC ต่ำลง) และกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของผลตอบแทนพันธบัตร ได้แก่ REIT (ผลตอบแทนปันผลน่าสนใจขึ้น) อสังหาริมทรัพย์ (ต้นทุนทางการเงินลดลง) และ Consumer finance (ต้นทุนทางการเงินลดลง)
DAILY TOP PICKS
ADVANC เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AAA” แม้ 4Q66 คาดกำไรปกติลดลง QoQ จากไฮซีซั่นของค่าใช้จ่ายการตลาด แต่เมื่อเทียบ YoY กำไรปกติน่าจะปรับขึ้นต่อจากรายได้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น อีกทั้งมองดีล 3BB-JASIF จะสร้างประโยชน์ในระยะยาว
GPSC เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA” ช่วงสั้นได้ sentiment หนุนจาก Bond Yield สหรัฐปรับลดลง และราคาก๊าซที่อยู่ในระดับต่ำ โดยอยู่ระหว่างปรับสัญญาขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นอิงกับราคาก๊าซฯ ช่วยลดความผันผวนจากค่า Ft ที่ไม่สอดคล้องกับต้นทุน
ข่าวเด่น