SET เคลื่อนไหวเลี้ยงตัวเหนือบริเวณ 1400 จุด อย่างไรก็ตาม สัญญาณเทคนิคที่เข้าสู่ภาวะ overbought ทำให้ในระยะสั้น ยังมองมี upside จำกัด โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1410 และ 1415 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1400 และ 1394 จุด ตามลำดับ หากต่ำกว่า จะเป็นสัญญาณลบต่อภาพการพักตัว
ประเด็นสำคัญ
• วันนี้ประชุม ครม.นัดสุดท้ายปี 66 ก. คลังเตรียมเสนอต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ราคาไม่เกิน 3 ลบ. ออกไปอีก 1 ปี จากสิ้นสุด 31 ธ.ค. 66 เป็น 31 ธ.ค. 67 ปีนี้ ส่วน ก. แรงงานจะเสนอที่ประชุมรับทราบมติไตรภาคีปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปี 2567 วันละ 2-16 บ. เฉลี่ย 2.37% สูงสุด 370 บ.
• พาณิชย์รายงานส่งออก พ.ย. เพิ่มขึ้น 4.9%YoY ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน นำเข้าเพิ่มขึ้น 10.1%YoY มูลค่าขาดดุลการค้าราว 9.74 หมื่นลบ. ส่วน 11M66 ส่งออกลดลง 1.5%YoY นำเข้าลดลง 3.8%YoY และมีมูลค่าขาดดุลการค้าราว 3.28 แสนลบ.
• IAA ระบุตัวเลขกองทุน ThaiESG ในช่วง 15 วันแรก มียอดเข้ามาราว 3 พันลบ. ยอดขายส่วนใหญ่เป็นของ บลจ. ในเครือธนาคาร
• REIC รายงานผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างขาย 3Q66 ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล พบว่า อุปทานเพิ่มขึ้น 8%YoY ขณะที่ยอดขายได้ใหม่ลดลง 9.7%YoY ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยเหลือขายในโครงการต่างๆ มีจำนวน 195,059 หน่วย เพิ่มขึ้น 10%YoY
• BOI ระบุใน 5 ปีจะมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น 4 ราย ที่พร้อมขยายการลงทุนสำหรับการผลิต EV ในไทยมูลค่า 1.5 แสนลบ. หลังการประชุม ASEAN-Japan ที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 14-18 ธ.ค. ที่ผ่านมา
• ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยอดขายลดลง ผลต่อ GDP ที่ลดลงแรง ยอดการลงทุนในภาคอสังหาที่หดตัว ยอดผิดนัดชำระหนี้เพิ่ม 3 ปีติดต่อกัน และรายได้จากการขายที่ดินของรัฐบาลท้องถิ่นที่น้อยลง
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมองการปรับขึ้นตลาดหุ้นโลกจะเริ่มชะลอตัวลง หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ส่วนของตลาดหุ้นไทยคาดมีปัจจัยหนุนระยะสั้นจากการทำ Window dressing, การมีเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน TESG และ RMF ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 และหาก SET ยืนเหนือ 1,400 อาจเห็นการทำ Short Covering ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”
ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมอง SET มีปัจจัยหนุนจากการทำ Window dressing, เม็ดเงินลงทุนจากกองทุน TESG และ RMF ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 และหาก SET ยืนเหนือ 1,400 อาจเห็นการทำ Short Covering กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่ที่มีโอกาสได้รับผลบวก ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating ตั้งแต่ “A”-“AAA” และราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก OR AOT หรือ (II) ได้ ESG Rating “AAA” และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET YTD อีกทั้งผลดำเนินงานแข็งแก0ร่ง และคาดให้ Div. Yield สูงกว่าปีละ 5% เลือก PTT KTB
2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลงได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (BJC CPALL CPAXT), การแพทย์ (BDMS BCH), โรงไฟฟ้า (GULF), REIT (DIF), อสังหาฯ (AP) และ Consumer Finance (TIDLOR)
3) หุ้นที่อาจได้แรงหนุนจากการทำ Short Covering มากกว่า 10% ของมูลค่าซื้อขายตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นต้นมา และเราแนะนำ ซื้อ ได้แก่ ADVANC MINT
4) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ E-Receipt ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 5 หมื่นบาท เริ่มในวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2567 ได้แก่ CRC HMPRO
ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำซึ่งคาดจะมีการเสนอ ครม. พิจารณาภายในสัปดาห์นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA) ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)
Special Report : Yearbook 2024 ซึ่งมาด้วยแนวคิด “A Year of Value Investing” เพื่อสื่อว่าตลาดหุ้นไทยขณะนี้มีหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าอยู่มาก เป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว พร้อม 10 หุ้น Top Picks 2024 ที่คัดสรรมาให้ (ติดตามอ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์ซึ่งออกเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 66)
DAILY TOP PICKS
AOT เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “A” ราคาหุ้น 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 12% ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน จากกังวลท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้าและการปรับเป้าจำนวนผู้โดยสารปี FY2024 ลง แต่มองเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเพื่อลงทุนระยะยาวหลังคาดกำไรอยู่ในทิศทางฟื้นตัว
CPAXT คาดยอดขายใน 4Q66TD เติบโตสูงกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มฯ และกำไร 4Q66 คาดเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เป็นไตรมาสดีที่สุดของปีนี้ อีกทั้งยังมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น จากเป็นหุ้น SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AAA” และการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ
ข่าวเด่น